เขตพญาไท 5 เม.ย.-ทนายชมรมอนุรักษ์พญาไทเดินหน้าฟ้องอาคารสูงในเขตพญาไท ย้ำต้องการสร้างบรรทัดฐานการสร้างตึกสูงในพื้นที่กรุงเทพ หลังนำผู้ตรวจการฯลงพื้นที่พบคอนโดฯสูงผิดกฎหมาย
นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องร้องเรียน ภายหลังจากชมรมอนุรักษ์พญาไทร้องเรียนกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากรณีปล่อยให้มีการอนุญาตก่อสร้างคอนโดมิเนียมและอาคารสูงจำนวนมากบริเวณซอยพหลโยธิน 5 – 11 และในชุมชนใกล้เคียง โดยไม่คำนึงถึงผังเมืองและลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ที่จำกัด ซึ่งในช่วงแรกเป็นการรับฟังความเห็น
นายรักษเกชา กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดูแลอย่างเข้มงวดเรื่องการอนุญาต รวมถึงการพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าบางโครงการใช้ข้อมูลการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมไม่ถูกต้อง ขณะที่สำนักงานเขตควร ให้ผู้ได้รับผลกระทบมีส่วนร่วมกำกับดูแลระหว่างการก่อสร้าง และหน่วยงานต่าง ๆ ต้องช่วยกันดูแลโดยไม่อ้างว่าเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่น
นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความของชมรมอนุรักษ์พญาไท ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ทำคดีป้าทุบรถ กล่าวว่า ในพื้นที่เขตพญาไทพบว่ามีการก่อสร้างอาคารสูงเกินที่กฎหมายกำหนดร้อยละ 90 โดยที่บริเวณซอยอารีย์ซอย 1 พบการก่อสร้างตึกสูง 6-7ตึก และเข้าข่ายผิดกฎหมายเหมือนกรณีตึกเอ-ทัชที่ศาลสั่งให้รื้อไปก่อนหน้านี้ ซึ่งตนจะทำเรื่องนี้ให้เป็นบรรทัดฐานเป็นตัวอย่างในพื้นที่กรุงเทพมหานครเรื่องการสร้างอาคารสูง ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะเขตพญาไทเท่านั้นที่อนุญาตให้มีการก่อสร้างลักษณะนี้ แต่มีในเขตอื่น ๆ ด้วยที่จะต้องทุบอย่างแน่นอน เช่น พื้นที่เขตสุขุมวิท
“จะเห็นได้ว่าทางเท้า คนตาบอดก็เดินไม่ได้ จึงขอให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องควรใช้กฎหมายให้เข้มงวด หากยังไม่ดำเนินการใด ๆ โดยหลังจากวันนี้(5 เม.ย.)หากยังอนุมัติโครงการเพิ่มผิดกฎหมายจะต้องถูกดำเนินการตามกฏหมายเพื่อรื้อถอนแน่นอน” นายอนันต์ชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรักษเกชาลงพื้นที่บริเวณซอยพหลโยธิน 11 เพื่อตรวจวัดความกว้างของถนนในซอยดังกล่าว พบว่าความกว้างของถนนบริเวณปากซอย กว้าง 8.97 เมตร จากนั้นเดินเข้าซอยวัดจุดที่สองกว้าง 9.18 เมตร และบริเวณกลางซอยก่อนถึงคอนโดสูงถนนกว้าง 9.60 เมตร นอกจากนี้ยังพบว่าฟุตบาธสองฝั่งไม่เท่ากัน และแต่ละฝั่งยังมีขนาดความกว้าง เล็กแคบ สลับกันไป.-สำนักข่าวไทย
