กรุงเทพฯ 4 เม.ย. – รมว.อุตฯ รับลูกรองนายกรัฐมนตรี เร่งเฟ้นหาของฝากให้แหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวเลือกซื้อติดมือกลับบ้าน
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจเยี่ยม ว่า นายสมคิด มอบนโยบายให้กระทรวงอุตสาหกรรมคัดสรรผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองเพิ่มขึ้นได้เลือกซื้อนั้น ทางกระทรวงอุตสาหกรรมมีโครงการพัฒนาหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CIV) ทั่วประเทศปีนี้กว่า 100 แห่งให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็จะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศระดมสมองและความร่วมมือกับหอการค้าจังหวัดและอุตสาหกรรมจังหวัดแต่ละพื้นที่คิดและเลือกเฟ้นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อจัดเตรียมไว้รองรับนักท่องเที่ยวต่อไป
นายอุตตม กล่าวว่า เดือนพฤษภาคมจะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อสอบถามความคืบหน้าการดำเนินการเลือกเฟ้นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถดำเนินการได้ทันตามที่นายสมคิด ให้ระยะเวลาดำเนินการ 3 เดือนนับจากวันนี้ (4 เม.ย.) เป็นต้นไปได้
สำหรับการพัฒนาหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กระทรวงอุตสาหกรรมมีเป้าหมายพัฒนาให้ครบทุกจังหวัดในปี 2562 ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้แก่ชุมชนมูลค่ารวม 2,892 ล้านบาท ในส่วนของการพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และจะปฏิรูปด้วยการเพิ่มผลิตภาพการผลิตและนวัตกรรม (Productivity and Innovation) เสริมทักษะทางการเงิน (Financial Literacy) และยกระดับเอสเอ็มอีสู่มาตรฐานที่เหมาะสม (SME STANDard UP) เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมของไทยเข้าถึงห่วงโซ่มูลค่าการผลิตของโลก (global value chain) เชื่อมโยงกับT GoodTech ที่จะส่งเสริมให้เอสเอ็มอีเข้าสู่การซื้อขายออนไลน์ เชื่อมโยงและจับคู่ธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) กับคู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งสิ้นปี 2561 คาดว่าจะมีผู้ประกอบการเข้าระบบ ประมาณ 2,600 ราย และจะมีการอบรมการนำเข้าและส่งออกให้แก่ผู้ประกอบการ แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอีในต่างประเทศ และยังเชื่อมโยงกับ J GoodTech ของประเทศญี่ปุ่นด้วย ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยไปสู่ Industry 4.0 ภายใต้แนวคิด Connected Industries
ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่อนาคต ( ITC) และโครงการ Big Brothers จะเข้ามาช่วยในการขับเคลื่อน เอสเอ็มอีสู่ 4.0 ด้วยการให้บริการเครื่องจักรกลาง ให้คำปรึกษาการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ และส่งเสริมการตลาด โดยจะร่วมมือกับหน่วยงานเครือข่ายภาครัฐและเอกชน รวมถึงสถาบันการศึกษา ซึ่งจะมีศูนย์ ITC 22 แห่งทั่วประเทศ เปิดให้บริการผู้ประกอบการ โดยที่ ITC ส่วนกลางกล้วยน้ำไท โดยจะมีหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม เครื่องจักรอัตโนมัติ และการขึ้นรูปอัตโนมัติ ที่ได้รับการสนับสนุนเครื่องจักรจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมจะให้บริการผู้ประกอบการ ส่วนที่ต่างจังหวัดจะตั้งอยู่ที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค 1-11 อย่างไรก็ตาม กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมตั้ง Mini ITC ในสำนักงานอุตสาหกรรมทั้ง 76 จังหวัด ซึ่งจะมีอุปกรณ์ออกแบบ-ส่งเสริมการตลาด การให้คำปรึกษาออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ โดยจะทยอยติดตั้งอุปกรณ์และเปิดให้บริการแก่ผู้ประกอบการได้ภายในปีนี้
ส่วนโครงการ Big Brothers ที่มีธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเป็นพี่เลี้ยงในการจัดกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพ ทั้งด้านความรู้ การสร้างนวัตกรรม การพัฒนาประสิทธิภาพ การผลิต การตลาด และการเข้าถึงช่องทางการจัดจำหน่ายที่ทีศักยภาพ เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการรายใหม่ได้นำประสบการณ์โดยตรงเหล่านี้ไปใช้ในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้าร่วมโครงการ 350 ราย โดยมีบริษัทที่มาช่วยเป็นพี่เลี้ยงในโครงการนี้ อาทิ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท เบทาโก จำกัด (มหาชน) บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด เป็นต้น
นายอุตตม กล่าวเพิ่มเติมว่า รองนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กระทรวงอุตสาหกรรมช่วยพัฒนากลุ่มเอสเอ็มอี และผลักดันให้เข้าถึงมาตรการส่งเสริมของทางรัฐบาล เพื่อที่จะนำไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยเน้นให้นำหน่วยงานเครือข่าย อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันการศึกษาและภาคเอกชนมาช่วยในการให้ขับเคลื่อนเอสเอ็มอี นอกจากนี้ เตรียมนำมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพของไทย ปี 2561 -2570 พัฒนา 3 เขตเป้าหมาย คือ ภาคเหนือตอนล่าง (นครสวรรค์และกำแพงเพชร) พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยอนาคตคาดว่าจะมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 187,205 ล้านบาท และมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบภายในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อน S-Curve เพิ่ม จากเป้าหมายใน 10 อุตสาหกรรม
สำหรับการพัฒนากระทรวงอุตสาหกรรม 4.0 นั้น ขณะนี้เชื่อมโยงหน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมทั้งหมดให้รวมเป็น Big Data ผ่านระบบ i-Industry ที่ประชาชนสามารถใช้บริการด้วยบัตรประชาชน (Smart Card) โดยไม่ต้องใช้สำเนาบัตรประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน และยังเชื่อมโยงไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการคลัง เป็นต้น. – สำนักข่าวไทย