“จาพนม” กลับบ้านเกิดรดน้ำดำหัวแม่

สุรินทร์ 2 เม.ย.- จาพนม ยีรัมย์ พาลูก-ภรรยา เดินทางกลับบ้านเกิด จ.บุรีรัมย์ ทำพิธีรดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่ เผยวิบากกรรมผ่านไปแล้ว เดินหน้าสร้างความสามัคคีในครอบครัว


บ้านเอรวัณ บ้านโนนสูง ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ โทนี่จา หรือ จาพนม ยีรัมย์ นักแสดงชื่อดังของวงการภาพยนตร์ไทย โดยจา พนม ได้นำครอบครัว มีนางปิยรัตน์ ยีรัมย์ น้องบุ้งกี้ ภรรยาและลูกสาว พร้อมด้วยนางวรรณา สุรวิทยานนท์ แม่แตน แม่ของน้องบุ้งกี้ เดินทางกลับมาที่บ้านเกิด จ.สุรินทร์ เพื่อทำพิธีรดน้ำดำหัวและล้างเท้าขอพรคุณแม่ริน ยีรัมย์ คุณแม่จาพนม รวมถึงญาติผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นประเพณีของชาวกูยเลี้ยงช้าง ในวันปีใหม่ไทย วันสงกรานต์ที่จะมาถึง โดยในปีหนึ่งลูกหลานเมื่อไปทำมาหากินที่อื่นๆ ก็จะพากันกลับมา ประกอบพิธีดังกล่าว 


มีการปะกอบพิธีเซ่นไหว้ ศาลปะกำ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำบ้าน พร้อมทั้งจัดพิธีขอขมา ขอพร รดน้ำดำหัว แม่ริน ยีรัมย์ คุณแม่ของจา พนม ยีรัมย์ โดยมีหมอพราหมณ์ เป็นผู้นำประกอบพิธีและมีนายไชยพงษ์ แสนดี ซึ่งเป็นหมอช้าง พร้อมทั้ง ญาติฝ่ายพ่อ ของจาพนม ยีรัมย์ พร้อมด้วยพระ ดร.สมุห์หาญ ปัญญาธโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ป่าอาเจียง บ้านหนองบัว ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ที่จาพนม ยีรัมย์ ให้ความเคารพ นับถือ และร่วมสร้างศาลาเอราวัณภายในสำนักสงฆ์ป่าอาเจียง มาตั้งแต่เริ่มต้น จนใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ พร้อมด้วยบรรดาญาติๆของ นายพนม ยีรัมย์ ร่วมพิธีขอขมา ขอพร รดน้ำดำหัว แม่ริน ยีรัมย์ อย่างอบอุ่น เพิ่มเติมความรัก ความสามัคคีความปองดอง เข้าใจกันของทั้งสองครอบครัว บรรยากาศอบอุ่น

จาพนม เปิดเผยหลังทำพิธีเสร็จสิ้นแล้วแบบสบายๆ เป็นกันเอง ซึ่งมีคุณแม่ และญาติผู้ใหญ่ที่นับถือ พร้อมญาติอยู่ข้างๆว่า ได้กลับมาบ้านเกิดที่จ.สุรินทร์อีกครั้ง ได้มาเจอญาติๆ มารวมกันทำพิธีแบบชาวส่วย หรือ กูย แบบชาวช้าง ที่เรียกว่ารดน้ำญาติผู้ใหญ่ก่อนวันสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทย ซึ่งก็มีญาติผู้ใหญ่และญาติพี่น้องทุกคนมาร่วมงาน เพื่อเป็นศิริมงคล ซึ่งวิบากกรรมต่างที่เกิดขึ้นก็หมดไปแล้ว ต่อไปก็จะมาสร้างสรรค์ความสามัคคีให้เกิดขึ้น ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีนี้เป็นสิ่งที่ดีงามควรแก่การอนุรักษ์ไว้สืบไป เป็นการสร้างขวัญกำลังใจที่ดีให้กับชุมชน พ่อแม่ซึ่งเป็นขวัญกำลังให้เราได้ก้าวเดินต่อไป ทำงานก็จะได้มีสมาธิที่ตั้งมั่น มีกำลังใจที่ทำอะไรก็จะประสบผลสำเร็จ มีความเจริญรุ่งเรืองต่อไป


ส่วนงานด้านภาพยนตร์ตอนนี้มีอยู่ 2 เรื่อง ตอนนี้ถ่ายทำเสร็จไปแล้ว ก็อยู่ในขั้นตอนของโพสต์โปรดักชั่นเป็นภาพยนตร์ฝรั่ง 1 เรื่อง มีดารานักแสดงจากต่างประเทศทั้งฮอลลีวูดและจีนเข้าร่วมแสดงจำนวนหลายคน รวมถึงตนโทนีจาด้วย อีกเรื่องเป็นภาพยนตร์จีนฮ่องกง ก็รอชมผลงาน 2 เรื่อง ที่จะตามมา ฝากเป็นกำลังใจและแรงเชียร์ สำหรับสงกรานต์ ปีใหม่ไทยปีนี้ พี่น้องชาวไทย ชาวต่างชาติ รวมทั้งคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ ก็ขอให้แฮปปี้นิวเยียไทยสไตล์ วันสงกรานต์ไทย รดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ ช่วยกันรักษาประเพณีอันดีงามไว้ ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันสงกรานต์ปีใหม่ไทยเรา

หลังเกิดกระแสข่าวการหายตัวไปของ จา พนม เมื่อปี 2556 ซึ่งทางครอบครัวอ้างว่า ลูกสะใภ้เป็นคนกีดกัน จนมีข่าวพ่อจา พนม ออกตามหาตัวลูกชายอยู่เรื่อยมา และทั้งสองฝ่ายเกิดทะเลาะวิวาทลงไม้ลงมือกัน โดยตลอดช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา ครอบครัวของจาพนม ยีรัมย์ มีปัญหาไม่เข้าใจกัน ทั้งครอบครัวของแม่ยายฝ่ายภรรยา และครอบครัวของพ่อกับแม่ ตลอดทั้งญาติ พี่น้องของจา พนม กลายเป็นความบาดหมางนับตั้งแต่นั้น กระทั่งมีคนกลางช่วยเจรจาพูดคุยกับแม่ยายและครอบครัวของจา พนม พร้อมด้วยภรรยา.-สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี