ป.ป.ท.29 มี.ค.-บอร์ด ป.ป.ท.สั่งไต่สวนความผิดทุจริตเงินคนจนเพิ่ม 10 สำนวน 8 จังหวัด ผู้ถูกกล่าวหา 49ราย พร้อมเสนอย้ายผอ.ศูนย์-ผอ.โรงเรียน ยุ่งเหยิงพยาน ย้ำชัดทุจริตเป็นระบบแบบแผน ต้องมีระดับสูงกำหนดแนวปฏิบัติ
พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด ป.ป.ท.ว่า บอร์ด ป.ป.ท.มีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนความผิดของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง 8 ศูนย์ ประกอบด้วย ศูนย์จังหวัดตรัง กระบี่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ อำนาจเจริญ กาฬสินธุ์ นครพนม และชัยภูมิ นอกจากนี้ยังตั้งอนุกรรมการไต่สวนสหกรณ์สันกำแพง จ.เชียงใหม่ นิคมสร้างตนเอง จ.บุรีรัมย์ โดยมีผู้ถูกกล่าวหา 49 คน รวมบุคคลที่ถูกกล่าวหาที่มีการตั้งอนุกรรมการไต่สวนแล้วก่อนหน้านี้ รวมทั้งสิ้น94 คน
ทั้งนี้ในการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ที่ไปตรวจสอบการทุจริตของศูนย์คนไร้ที่พึ่งบางแห่งพบอุปสรรคจากผอ.ศูนย์บางแห่งเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยาน หลักฐาน ทำให้ยากต่อการสอบสวน บอร์ด ป.ป.ท.จึงมีมติทำหนังสือไปยังกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พ.ม.) ให้ย้าย ผอ.ศูนย์ จ.ตรัง ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ออกนอกพื้นที่ ส่วนจ.นครพนม มีผอ.โรงเรียนเข้ามาสนับสนุนการกระทำความผิดและคุกคามพยาน จึงเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการย้ายออกจากพื้นที่เช่นกัน
พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังไม่มีการชี้มูลความผิดแต่การเสนอให้ย้ายออกนอกพื้นที่เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน โดยยึดตามแนวมติคณะรัฐมนตรี ที่เปิดช่องให้สามารถเสนอย้ายผู้ที่มีพฤติการณ์เบี่ยงเบนพยานหลักฐานเพื่อปกปิดความผิด ออกนอกพื้นที่ได้
ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงินของข้าราชการระดับสูง พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวว่า ภายหลังการตั้งอนุกรรมการไต่สวนความผิดของ ผอ.ศูนย์ เป็นอำนาจของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่จะเข้ามาตรวจสอบธุรกรรมการเงิน ส่วนการยึดอายัดทรัพย์เป็นอำนาจโดยตรงของ ปปง.ส่วนจะเชื่อมโยงไปถึงข้าราชการระดับสูงอย่างไร ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงเข้ามาตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน โดยตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำทุจริตทั้ง 53 จังหวัด ถือเป็นอาชญากรรมที่ทำอย่างต่อเนื่องมีแบบแผนเดียวกันและทำเป็นระบบ เชื่อว่าไม่ใช่ระดับล่างเท่านั้นที่เกี่ยวข้องเพราะการจะทำเป็นระบบได้ น่าเชื่อว่าต้องมีการกำหนดเป็นแนวปฏิบัติ ที่สามารถประกอบอาชญากรรมเหมือนๆกัน .-สำนักข่าวไทย