กกต.ชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการต่อพรรคการเมืองเก่า

กรุงเทพฯ 28 มี.ค.-ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการต่อพรรคการเมืองเก่าตามกฎหมาย-คำสั่งคสช. ด้านอภิสิทธิ์ ชี้ กกต. มีอำนาจหน้าที่อำนวยความสะดวกให้พรรคสามารถคงสมาชิกไว้ให้ได้มากที่สุด แต่กลับทำลายฐานสมาชิกของพรรคการเมือง ซ้ำชี้แจงไม่ตรงกับสิ่งที่กฎหมายเขียนไว้


โรงแรมเซ็นทรา นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวตอนหนึ่งในการเปิดประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการแก่พรรคการเมืองเก่าที่เข้าร่วมประชุม 55 พรรค จำนวน 308 คน ถึงแนวปฏิบัติตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 และคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 ว่า ก่อนหน้านี้ตนได้หารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ถึงแนวปฏิบัติและสิ่งที่พรรคการเมืองสามารถทำได้ในขณะที่ยังไม่ยกเลิกประกาศ คสช.ที่ 57/2557 และคำสั่งคสช.ที่ 3/2558 ซึ่งก็ได้ความชัดเจนในระดับหนึ่ง และมีแนวโน้มว่าจะต้องมีการแก้ไขคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 ในระยะต่อไป 

ประธาน กกต. กล่าวว่า  ก่อนที่จะประชุมเช้าวันนี้ก็ได้หารือกับหัวหน้าพรรคการเมือง ถึงข้อขัดข้องต่าง ๆ ซึ่งก็จะรับไปหารือในที่ประชุม กกต.แต่ถ้าเป็นข้อขัดข้องที่กี่ยวกับประกาศคสช.ก็จะนำไปหารือกับคสช.โดยเร็ว เพื่อแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้ได้ เพื่อให้พรรคการเมืองดำเนินการตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดได้  อย่างไรก็ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองนั้น มีกระบวนการที่เปลี่ยนแปลงไปมาก เช่น การจัดตั้งสาขาพรรค การทำไพรมารีโหวต จึงขอให้ทุกพรรคการเมืองศึกษากฎหมายอย่างละเอียดจะได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง


พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รักษาการเลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวว่า ตามกฎหมายพรรคการเมืองกำหนดว่าพรรคต้องทำไพรมารีโหวต ซึ่งในการเลือกตั้งหากพบว่าพรรคใดไม่ดำเนินการ หรือดำเนินการไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด กกต.จะแจ้งความดำเนินคดีอาญากับผู้บริหารพรรคการเมืองนั้น แต่จะไม่มีผลทำให้ผู้สมัครที่ได้รับเลือกสิ้นสภาพไป 

นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. ชี้แจงเกี่ยวกับคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 ว่ามีหลายประเด็นที่มีปัญหาในทางปฏิบัติ ซึ่งกกต.มีหนังสือไปยังคสช.เพื่อให้พิจารณาแก้ไขแล้ว โดยเฉพาะประเด็นความเท่าเทียมระหว่างพรรคการเมืองเก่ากับพรรคการเมืองใหม่ เช่น กรณีที่คำสั่งไม่ได้รับรองสาขาพรรคการเมืองตาม พ.ร.ป.พรรคการเมืองปี 50 ไว้ทำให้ไม่มีองค์ประชุมจากส่วนที่เป็นสาขาพรรคในการประชุมใหญ่และพรรคการเมืองเก่าต้องมีสี่สาขาทั่วประเทศในขณะที่พรรคการเมืองใหม่มีเพียงสาขาเดียวก็สามารถส่งผู้สมัครได้ เป็นต้น ซึ่งประเด็นเหล่านี้ต้องแก้ไขไม่เช่นนั้นจะเลือกตั้งไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนั้นได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนพรรคการเมืองสอบถามในประเด็นที่ยังมีข้อสงสัย ส่วนใหญ่อยากให้แก้ไขกรณีที่กำหนดว่า การยืนยันตัวตนของสมาชิกพรรคการเมืองต้องทำพร้อมกับจ่ายค่าบำรุงพรรค 100 บาทด้วยไม่เช่นนั้นจะสิ้นสภาพ และมีบางพรรคเสนอให้ยกเลิกการทำไพรมารีโหวต รวมถึงมีข้อสงสัยว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ 


นายแสวง ชี้แจงว่า การยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคต้องจ่ายเงินบำรุงพรรค 100 บาทต่อปี ภายในวันที่ 30 เมษายนด้วย ไม่เช่นนั้นจะต้องพ้นสภาพการเป็นสมาชิกพรรค ส่วนกรณีที่กำหนดให้สมาชิกพรรคนำสำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านมายืนยันความเป็นสมาชิกพรรคด้วยนั้น ไม่จำเป็นต้องนำเอกสารทั้งสองฉบับมาใช้ในการยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคแล้ว สำหรับการจะไม่ทำไพรมารีโหวตและกำหนดวันเลือกตั้งนั้นขึ้นอยู่กับการหารือระหว่าง คสช. ครม. กรธ.ประธานสนช.และตัวแทนพรรคการเมืองที่จะมีขึ้นหลังร่างกฎหมายเลือกตั้งส.ส.ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กกต.เป็นผู้รักษากฎหมายและแนวทางปฏิรูปการเมืองมีเป้าหมายให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมในการสร้างพรรค กกต.จึงควรอำนวยความสะดวกให้พรรคสามารถคงสมาชิกไว้ให้ได้มากที่สุด แต่สิ่งที่กกต.กำลังทำกลับเป็นการทำลายฐานสมาชิกของพรรคการเมือง อีกทั้งคำชี้แจงของ กกต.ไม่ตรงกับสิ่งที่กฎหมายเขียนไว้ เช่น กฎหมายพรรคการเมืองให้เวลาในการจ่ายค่าบำรุงพรรค 4 ปี แต่มีการตีความคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 ว่าสมาชิกที่ยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคแต่ไม่จ่ายค่าบำรุงพรรคภายใน 30วัน จะพ้นจากความเป็นสมาชิก โดยไม่มีกรอบเวลา 4 ปีเหมือนในกฎหมายพรรคการเมือง จึงอยากให้กกต.ทบทวนเรื่องดังกล่าว รวมถึงกรณีสมาชิกพรรคการเมืองยืนยันแต่ยังไม่พร้อมชำระเงินควรให้แจ้งต่อกกต.ได้ ส่วนสถานภาพจะเป็นอย่างไรก็ให้ไปสู้กันตามกฎหมาย ที่พ.ร.ป.พรรคการเมือง กำหนดไว้อยู่แล้วว่า ภายในกี่เดือนต้องจัดให้สมาชิกไม่น้อยกว่าเท่าไรจ่ายค่าบำรุงพรรค 

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงปัญหาจากกฎหมายพรรคการเมืองที่ทำให้ยากต่อการปฏิบัติคือ กรณีให้หัวหน้าพรรครับรองว่า สมาชิกมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ซึ่งหัวหน้าพรรคไม่มีทางรับรองได้ได้ จึงอยากให้แก้ไข เพราะสามารถรับรองได้แค่เพียงว่าสมาชิกพรรครับรองคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของตัวเองมาแล้วเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าจะเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม