ขสมก. 26 มี.ค. – ขสมก.เปิดตัวรถเมล์เอ็นจีวีรุ่นใหม่ เริ่มวิ่งให้บริการพรุ่งนี้ 100 คัน 5 เส้นทาง พร้อมทยอยส่งมอบครบ 489 คัน มิ.ย.นี้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิธีเปิดตัวรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) รุ่นใหม่ นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า การจัดหารถเมล์ เอ็นจีวี 489 คันเป็นไปตามการดำเนินการตามแผนฟื้นฟู โดยมีกลุ่มทำงาน SCN-CHO นำโดยบริษัท ช.ทวี เป็นผู้จัดหารถ โดยรถใหม่ทั้ง 489 คัน ขสมก.จะนำมาให้บริการก่อนวันพรุ่งนี้ (27 มี.ค.) 100 คัน ในเขตเดินรถที่ 5 จำนวน 5 เส้นทาง ได้แก่ สาย 20 ป้อมพระจุลจอมเกล้า-ท่าน้ำดินแดง, สาย 21 วัดคู่สร้าง-จุฬาฯ, สาย 105 มหาชัยเมืองใหม่-คลองสาน , สาย 138 พระประแดง-หมอชิต , สาย 140 แสมดำ-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนที่เหลือจะมีการทยอยส่งมอบรถที่เหลือภายในเดือนมิถุนายน 61
ทั้งนี้ รถโดยสารดังกล่าวเป็นประเภทชานต่ำ ขนาด 12 เมตร 35 ที่นั่ง มีการออกแบบลักษณะUniversal Design เพื่อให้คนพิการและผู้สูงอายุสามารถใช้บริการได้อย่างสะดวกปลอดภัย มีเครื่องยนต์ขนาด 250 แรงม้าได้รับมาตรฐานตามข้อกำหนดประชาคมเศรษฐกิจยุโรปและสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมไทย ระบบเบรก ABS ระบบรองรับน้ำหนักแบบ Air Suspension พร้อมระบบปรับลดระดับความสูงของตัวรถ ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ถังก๊าซ 9 ใบได้รับมาตรฐาน ISO 11439 พร้อมชุดควบคุมระบบก๊าซและอุปกรณ์ ได้รับมาตรฐานตามข้อกำหนดคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งชาติยุโรป
สำหรับภายในห้องโดยสารบุด้วยฉนวนป้องกันความร้อนและเสียงรบกวน เก้าอี้โดยสารแบบปกติ 31 ที่นั่ง และแบบพับได้ 4 ที่นั่งบุด้วยฟองน้ำอย่างหนา ผลิตจากวัสดุไม่ลามไฟ ทำให้นั่งสบายขณะใช้บริการ ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ มีการติดตั้งป้ายไฟดิจิทัลบอกเส้นทางขนาดใหญ่ เพื่อการมองเห็นที่ชัดเจน กล้อง CCTV 5 จุด เพื่อให้พนักงานขับรถสามารถดูแลผู้ใช้บริการได้อย่างทั่วถึง ทางลาดแบบพับเก็บได้ เพื่อให้คนพิการเข็นรถวีลแชร์ขึ้น – ลงรถได้อย่างสะดวก ปลอดภัย พื้นที่จอดรถวีลแชร์ 2 คัน พร้อมที่ล็อคล้อและกริ่งสัญญาณหยุดรถสำหรับคนพิการ นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบ GPS เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบพิกัดตำแหน่งของรถโดยสารผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน และในอนาคตจะติดตั้งระบบ WiFi เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเชื่อมต่อโลกออไลน์ได้ทุกที่บนท้องถนนพร้อมติดตั้งระบบ E – Ticket เพื่อรองรับการใช้บริการของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและระบบตั๋วร่วม
ทั้งนี้ ขสมก.จะบรรจุรถโดยสารใหม่ทั้ง 489 คัน ลงในเส้นทางของเขตการเดินรถที่ 5, 2, 1 และ 3 ตามลำดับ รวม 25 เส้นทาง ครอบคลุมการให้บริการในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เขตการเดินรถที่ 1 จำนวน 9 เส้นทาง ได้แก่ สาย 59 (รังสิต – สนามหลวง), สาย 129 (บางเขน – สำโรง), สาย 510 (มธ.ศูนย์รังสิต – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ), สาย 522 (รังสิต – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ), สาย 543 (บางเขน – ลำลูกกา), สาย A1 (ดอนเมือง – BTS จตุจักร), สาย A2 (ดอนเมือง – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ), A3 (ดอนเมือง – สวนลุมพินี) และสาย A4 (ดอนเมือง – สนามหลวง)
เขตการเดินรถที่ 2 จำนวน 4 เส้นทาง ได้แก่ สาย 26 (มีนบุรี – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ), สาย 60 (สวนสยาม – ปากคลองตลาด), สาย 168 (สวนสยาม – ถ.พระราม 9 – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) และสาย 514 (มีนบุรี – รัชดา – สีลม) เขตการเดินรถที่ 3 จำนวน 4 เส้นทาง ได้แก่ สาย 102 (ปากน้ำ – สาธุประดิษฐ์), สาย 142 (ปากน้ำ – อู่แสมดำ), สาย 145 (ปากน้ำ – หมอชิต 2) และสาย 511 (ปากน้ำ – สายใต้ใหม่) เขตการเดินรถที่ 5 จำนวน 8 เส้นทาง ได้แก่ สาย 20 (ป้อมพระจุลจอมเกล้า – ท่าน้ำดินแดง), สาย 21 (วัดคู่สร้าง – จุฬาฯ), สาย 37 (แจงร้อน -มหานาค), สาย 76 (แสมดำ – ประตูน้ำ), สาย 105 (มหาชัยเมืองใหม่ – คลองสาน),สาย 138 (พระประแดง – หมอชิต 2), สาย 140 (แสมดำ – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ), และสาย 141 (แสมดำ – จุฬาฯ)
ก่อนหน้านี้ ขสมก.ได้สุ่มรถโดยสาร 2 คัน ไปทดลองวิ่งให้บริการประชาชนเส้นทางเดินรถสาย 138 และ 140 เมื่อวันที่ 14 – 16 และ 21 – 23 มีนาคม 2561 เพื่อทดสอบสมรรรถนะของรถโดยสาร ตามข้อกำหนดทีโออาร์ ผลการทดสอบพบว่ารถโดยสารสามารถวิ่งให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ คาดว่าเมื่อ ขสมก.ได้รับรถโดยสารครบทั้ง 489 คันมาวิ่งให้บริการจะช่วยสร้างความเชื่อมั่น และความพึงพอใจให้กับประชาชน อีกทั้งยังช่วยยกระดับคุณภาพบริการให้มีประสิทธิภาพสู่มาตรฐานสากล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโครงการจัดหารถใหม่ใช้เชื้อเพลิงเอ็นจีวีเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2549 จนมาถึงปัจจุบันปี 2561 ถือได้ว่ามีการดำเนินการมายาวนานกว่า 13 ปี คนกรุงเทพมหานครถึงได้นั่งรถเมล์ใหม่.-สำนักข่าวไทย