แม่สอด ระทึก! รถบรรทุกน้ำดื่มเบรกแตกพุ่งชนจุดตรวจ-จนท.หนีตายอลหม่าน

ภูมิภาค 25 มี.ค. – แม่สอด ระทึก! รถบรรทุกน้ำดื่มหลายหมื่นขวด เบรกแตกลงเนินเขาถนนสายแม่สอด-ตาก ก่อนรถพุ่งชนจุดตรวจความมั่นคงด่านห้วยหินฝนพังเสียหายยับเยิน เจ้าหน้าที่วิ่งหนีตายหวุดหวิด


 ภาพจากกล้องหน้ารถยนต์ บันทึกเหตุการณ์ขณะเกิดอุบัติเหตุรถเทเลอร์ 22 ล้อ สีขาว ทะเบียนกรุงเทพ บรรทุกน้ำดื่มกว่า 3,000 แพ็ค จำนวนหลายหมื่นขวด พุ่งเข้าชนจุดตรวจความมั่นคงบ้านห้วยหินฝน อำเภอแม่สอด บริเวณถนนสายแม่สอด-ตาก ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 15  ตั้งอยู่ใกล้กับเชิงเขาลาดชันศาลเจ้าพ่อขุนสามชน ทำให้อาคารที่ทำการตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก พังเสียหายเกือบทั้งหมดและเกิดกลุ่มควันไฟลุกไหม้ที่ล้อยางรถบรรทุกคันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงแม่สอดต้องระดมฉีดน้ำสกัดเพลิง นอกจากนี้ ยังพบรถยนต์ทางราชการและรถยนต์ของประชาชนที่จอดใกล้จุดตรวจถูกชนพังเสียหายยับเยินไปอีก 3 คัน และทำให้ทรัพย์สินของทางราชการพังเสียหายเป็นจำนวนมาก จนสร้างความแตกตื่นและสร้างความโกลาหลไปทั่วจุดตรวจในช่วงเวลาเกิดเหตุ  แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ทุกนายและประชาชนที่มาใช้บริการที่จุดตรวจ ต่างกระโดดวิ่งหนีเอาชีวิตรอดได้ทันเวลา จึงทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่ทุกคนก็อยู่ในอาการขวัญเสียในนาทีที่รอดตายมาอย่างหวุดหวิด

ตำรวจ สภ.แม่สอด สอบสวนนาย ล่องลม กองโตกลาง อายุ 62 ปี คนขับรถบรรทุกให้การเบื้องต้นว่า  ตนเองได้ขับรถคันเกิดเหตุ ออกมาจากจังหวัดตาก เพื่อจะนำน้ำดื่มที่บรรทุกมาเต็มคันมาส่งที่ชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก แต่พอขับรถมาได้ครึ่งทางรถเกิดเบรกขัดข้องตนเองและช่างได้จอดรถซ่อมแซมก่อนจะขับรถเดินทางอีกครั้ง  แต่พอขับรถเข้าสู่จุดตรวจความมั่นคงบ้านห้วยหินฝน ซึ่งเป็นด่านใหญ่  ซึ่งเส้นทางเป็นแนวขึ้นและลงเนินเขาลาดชัน รถเกิดเบรกขัดข้องกลางเนินเขาจนไม่สามารถหยุดรถได้และรถพุ่งลงเขาด้วยความเร็วสูง เสียการควบคุมพุ่งชนที่ทำการอาคารจุดตรวจของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แบบทะลุทั้งคันเสียงดังสนั่นถนนทำให้มีทรัพย์สินทางราชการพังเสียหายจำนวนมาก รวมถึงรถยนต์ตำรวจที่พึ่งเข้าประจำด่านวันแรกก็พังเสียหายเกือบทั้งคัน ซึ่งเหตุการณ์รถยนต์พุ่งชนจุดตรวจแห่งนี้เกิดขึ้นเป็นประจำและรุนแรงทุกครั้ง เนื่องจากเป็นจุดตรวจที่ตั้งอยู่ใกล้กับเนินเขาอันตรายที่มีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง


ขณะเดียวกันได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะ  สีขาว ทะเบียนจังหวัดตาก ชนเข้ากับเสาไฟฟ้าจนหักพังเละหงายท้องล้อชี้ฟ้า บริเวณถนนพหลโยธินขาล่องก่อนถึงศาลากลางจังหวัดตาก  500 เมตร ภายในรถพบผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อ คือ นายณัฐพัทธ์  ว่องไวกลยุทธิ์  อายุ 35 ปี พนักงานร้านจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ ชื่อดังของจังหวัดตาก เป็นคนขับและเด็กชายกฤษฎา  สนิทกลาง อายุ 14 ปี หลานชายนั่งมาด้วย โดยทั้ง 2 คน ถูกอัดติดอยู่ในซากรถ  กู้ภัย ฯ จึงรีบใช้เครื่องตัดถ่างงัดซากรถ เพื่อนำร่างของ ทั้ง 2 คน ออกมาเพื่อหวังจะช่วยชีวิต แต่ไม่อาจยื้อไว้ได้  ทั้งคู่ไม่มีการตอบสนอง CPR  เสียชีวิตทั้งคู่ 

ชลบุรี แชร์สนั่นโลกโซเชียล คลิปแฉรถกระบะขับเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์แล้วหนี ทำให้นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยบูรพา ได้รับบาดเจ็บ วอนตำรวจจับให้ได้

นี่เป็นภาพจากคลิปที่มีผู้โพตส์ในโลกออนไลน์ ขณะรถกระบะขับมาทางถนนบายพาสเลี่ยงเมืองชลบุรี มุ่งหน้าบางแสนถึงทางโค้งตัดถนนสุขุมวิท ได้เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คันหนึ่งล้มลงแล้วรถกระบะคันดังกล่าวไม่ได้ลงไปดู กลับขับหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยมีรถเจ้าของกล้องหน้ารถขับติดตามไปจนเห็นหมายเลขทะเบียนชัดเจน ต่อมาเฟซบุ๊กที่ผู้ใช้ชื่อว่า “ROTJAMA SALEE” มีข้อความว่า…แชร์วนไป MAZDA  BT 50 สีเขียว ทะเบียน พม9863 ชลบุรี …( เฉี่ยวชนมอไซค์แล้วหนี) บริเวณทางเลี่ยงเมืองตรงหน้าวัดจรูญขาเข้าบางแสน ขอบคุณเจ้าของกล้องหน้ารถด้วยคะที่ติดตามให้ ช่วยแชร์ให้ด้วย


ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ที่ห้องแถวเลขที่ 82/16 หมู่ 7 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหัดชลบุรี พบกับ น.ส.รจนา สาลี อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยบูรพา คณะการจัดการเทียบโอน ปีที่ 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ สีน้ำเงินขาว ทะเบียน จังหวัดศรีสะเกษ ที่ถูกรถกระบะเฉี่ยวชนแล้วหนี สภาพร่างกายมีบาดแผลทั้งขาและแขนรวมทั้งหัวไหล่มีผ้าก๊อตพันทั่ว ได้รับบาดเจ็บเกือบจะสาหัส โดย น.ส.รจนา เผยว่า รู้สึกเสียใจมากที่คนขับรถกระบะชนแล้วเร่งเครื่องหนีไปเลยไม่จอดรถลงมาดู ตนรู้สึกใจหาย เมื่อนอนอยู่กลางถนนไม่มีใคร เห็นรถที่วิ่งไปมาด้วยความเร็ว อยากจะขอให้เข้ามาดูเรื่องค่าใช้จ่ายบ้าง  เพราะตนต้องเรียนไปและทำงานไปด้วย อยู่กับแม่ 2 คน ได้รับความลำบากมากตอนนี้. -สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]