กรุงเทพฯ 13 มี.ค.-“เอี่ยวไถ่ สุกี้สูตรโบราณ” ก้าวสู่ยุคที่ 3 เข้ามาบริหารงาน จึงอาศัย บสย.ค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อหาทุนปรับปรุงร้านแนวโมเดิร์น หวังดึงคนรุ่นใหม่เข้าร้าน เตรียมผลิตน้ำจิ้มสูตรเด็ดบรรจุขวดให้ลูกค้าชิมอย่างทั่วถึง
“เอี่ยวไถ่ สุกี้โบราณ” สุกี้แห่งแรกของไทย คนรุ่นอายุราว 50-60 ปี จะรู้จักดี เพราะมีชื่อเสียงมาตั้งแต่ปี 2503 เริ่มจากชามละ 5 บาท แถวโรงหนังเฉลิมนคร ก่อนย้ายไปเยาวราช และขยายไปเอี่ยวไถ่ ปิ่นเกล้า ด้วยน้ำจิ้มสุกี้โบราณ สูตรเด็ดแบบจีนแต้จิ๋ว ซ่อนเคล็ดลับทั้งหมูหมัก เนื้อหมัก ปลาสดจากทะเลด้วยเครือข่ายเดิม ย้ำทุกครั้งที่ทานสุกี้ต้องคลุกเคล้าหมู เนื้อ ปลากับเครื่องหมัก กลิ่นจะหอมอบอวลชวนชิมไปนอกร้านเอี่ยวไถ่ เน้นความประณีตประกอบอาหารให้ลูกค้า ด้วยวัตถุดิบสด ทั้งผัก เนื้อ ปลา สานต่อแบบรุ่นสู่รุ่น จึงครองใจลูกค้าขาประจำ ขยายร้านเพิ่มเติมถึง 13 สาขา ในปัจจุบัน
เมื่อก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ไทยแลนด์ 4.0 ลูกหลานคนรุ่นใหม่มาสานต่อกิจการ จึงปรับปรุงร้านเป็นแนวโมเดิร์นผสมตำนานแบบเดิมให้ดูคลาสสิก ทั้งบรรยากาศภายในร้าน จานตกแต่งเมนูอาหารให้น่าทาน แต่คงตำนานยุค 1960 เพื่อดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาชิมอาหารได้หลากหลาย พร้อมหน้าทั้งผู้สูงอายุและวัยรุ่น ด้วยเมนูรสเด็ดอาหารเพิ่มเติมทั้งเป็ดปักกิ่ง ก๋วยเตี๋ยวหลอด และอีกหลายเมนู จึงเตรียมขยายสาขาทันสมัยให้ได้ 20 สาขา ช่วง 3 ปี ข้างหน้าทั่วกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พึ่งพาเงินกู้จากกสิกรไทย 2 สัญญา อาศัย บสย.มาช่วยค้ำประกันสินเชื่อ ต้องใช้ทุนปรับปรุง 15 ล้านบาท/สาขา
แนวคิดของคนทันสมัย จึงไม่ได้หยุดเพียงแค่เปิดร้าน ปรับปรุงการบริการ รับเมนูแบบสมัยใหม่ด้วยระบบปาล์ม วางแผนส่งผ่านน้ำจิ้มสูตรโบราณส่งถึงมือแม่บ้านทุกคน เอี่ยวไถ่จึงพร้อมผลิตน้ำจิ้มสูตรโบราณบรรจุขวด วางจำหน่ายตามร้านโมเดิร์นเทรดทั่วไป เอี่ยวไถ่ยังศึกษาวิจัยร่วมกับสถาบันการศึกษาหาทางจัดเก็บอาหาร บริการให้ทั่วถึงทุกกลุ่ม เอสเอ็มอีต้องการเติมทุนติดต่อ บสย.ได้ทุกพื้นที่.-สำนักข่าวไทย
ชมผ่านยูทูบ