สำนักงานอัยการสูงสุด 12 มี.ค.-รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้คดีเปรมชัย พนักงานสอบสวนไม่ได้ทำคดีล่าช้า เพียงแต่เป็นคดีสังคมสนใจ
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงขั้นตอนการปฎิบัติในคดีของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและ กรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และคณะ ซึ่งมีกระแสข่าวว่าวันพรุ่งนี้(13 มี.ค.)พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ จ. กาญจนบุรี จะนำสำนวนคดีนายเปรมชัย พร้อมพวกส่งอัยการ ตามข้อกล่าวหารวม 9 ข้อหา
นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า ในขั้นตอนหลังจากรับสำนวน อัยการทองผาภูมิก็คงทำตามหน้าที่เหมือนกับที่เคยทำให้คดีอื่นๆ โดยคดีนี้มีการยื่นฝากขังไว้แล้วต่อศาล จึงจะต้องยื่นก่อนครบกำหนดหนึ่งฝากคือก่อน12วัน เพื่อให้อัยการทองผาภูมิตรวจสอบ พิจารณาสำนวนที่พนักงานสอบสวนส่งมาว่าครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ โดยปกติหากสำนวนครบถ้วนทั้นหลักฐาน พยาน ก็จะสามารถสั่งฟ้องได้ภายในเวลา 3 วัน แต่ถ้าไม่ครบถ้วนก็จะต้องสั่งสืบพยาน หาหลักฐานเพิ่ม รวมถึงอาจให้มีการตั้งข้อหาเพิ่มเติมหากมองว่าข้อหาที่อยู่ในสำนวนยังไม่ครบถ้วน
ส่วน 9 ข้อหาที่พนักงานสอบสวนแจ้งไว้กับนายเปรมชัยและพวกนั้นครอบคลุมแล้วหรือไม่ สวนตัวยังไม่ขอออกความเห็น เพราะต้องดูสำนวนที่พนักงานสอบสวนส่งมาก่อน โดยพนักงานอัยการทองผาภูมิจะเป็นผู้ตรวจทานอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนสรุปแจ้งมา ซึ่งขั่นตอนนี้คงต้องขอเวลาให้ตรวจสอบซักนิด
ส่วนในกระแสสังคมที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการทำคดีของตำรวจโดยเฉพาะการตรวจหาดีเอ็นเอ ในชิ้นส่วนต่างๆที่พบ ทั้งบนมีด เขียง ว่าเป็นการดึงเวลา หรือมีความแปลกประหลาดในการทำคดี ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีหลักฐานหลายอย่างที่พบในที่เกิดเหตุว่าเป็นของนายเปรมชัยชัดเจนทั้ง รถ และปืน รวมทั้งก็มีรอยนิ้วมือนายเปรมชัยบนปืน เรื่องนี้นายโกศลวัฒน์ ระบุว่า เรื่องนี้ถือเป็นสมรรถนะ และความสามารถในการสอบสวนของตำรวจ ยิ่งสอบสวนได้ข้อมูลครบถ้วนมากเท่าใดก็จะเป็นผลดีกับคดี อย่าลืมว่ากระบวนการยุติธรรมเป็นระบบกล่าวหา เวลาไปยื่นฟ้องต่อศาลก็จะ ต้องสืบให้ศาลเห็น และให้ศาลเชื่อถ้าศาลท่านสงสัยวิการพิจารณากระบวนความอาญาหากอะไรที่ทำให้เกิดข้อสงสัยศาลท่านก็จะยกประโยชน์ให้จำเลยไว้ก่อน เพราะฉะนั้นการที่พนักงานสอบสวนจะสืบลงลึกในรายละเอียด เพื่อให้ได้พยานหลักฐานที่ครบถ้วนสมบูรณ์ก็จะถือว่าเป็นผลดี
ทั้งนี้ ยืนยันการดำเนินคดีทำด้วยมาตรฐานเดียวกัน ไม่มีการเลือกปฎิบัติไม่ว่าจะเป็นชาวบ้าน หรือคนดัง คนมีอำนาจ นายทุน ก็ต้องถูกทำภายใต้มาตรฐานเดียวกัน
‘ความช้าเร็วในการทำคดีสำนักงานอัยการ มีระเบียบและมาตรฐานในการทำคดี ซึ่งการทำคดีผู้ต้องหาในแต่ละคดีก็มีสิทธิจะยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม ขอให้สอบสวนเพิ่มเติมได้ ซึ่งการขอในลักษณะนี้ไม่ใช่แค่คนมีเงิน มีอำนาจจะขอได้เท่านั้น ประชาชนคนทั่วไปก็ทำได้และอัยการก็ได้ทำตามคำขอตลอด เรื่องอย่างนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่จะมาเลือกปฏิบัติ ซึ่งการขออัยการก็จะพิจารณชตามความเหมาะสม ตามเอกสารหลักฐานที่ขอมา’ นายโกศลวัฒน์ กล่าว
ส่วนการทำคดีนายเปรมชัย ส่วนตัวมองมองว่า ไม่ได้ล่าช้าอย่างที่สื่อสังคมออนไลน์วิพากษณ์วิจารณ์ หากติดตามก็จะเห็นถึงความพยายามในการสืบหาพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ตอนนี้อัยการคงรอตรวจสอบสำนวนที่ส่งมาให้ว่าครบถ้วนสมบูรณ์เพียงใด
“ในกระบวนการยุติธรรม ระยะเวลาถือว่าเป็นระยะเวลาปกติ ไม่ได้ล่าช้าไปกว่าปกติทั่วไป เพียงแต่ว่าพอเป็นประเด็นทางสังคม คนสนใจมาก สังคมก็พยายามจะผลักดัน เรื่องนี้อัยการสูงสุดยืนยันจะทำตามพยานหลักฐานที่ปรากฎในสำนวน ไม่สามารถทำตามความรู้สึกคนในโซเชียลได้” นายโกศลวัฒน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย