ภูมิภาค 10 มี.ค.-พายุฤดูร้อนทำให้มัสยิดและบ้านเรือนของประชาชนใน 3 หมู่บ้าน ของ จ.สตูล ได้รับความเสียหาย ขณะที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบผู้เสียชีวิต 1 คน จากสาเหตุอากาศเปลี่ยนแปลงจากร้อนเป็นเย็น
ที่อำเภอเมืองสตูล บ้านเรือนของประชาชนในหมู่ 3, 5 และ 7 ของตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล รวม 10 หลังคาเรือนได้รับความเสียหายจากลมกรรโชกแรง พัดหลังคาปลิวหายรวม 10 หลัง และบ้านเรือนพังจากแรงลม 1 หลัง และยังไม่นับมีมัสยิดในพื้นที่บ้านฉลุงใด้กระเบื้องปลิวเสียหายอีกด้วย
ส่วนที่บริเวณริมถนนพลายงาม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเหตุพบศพ นายณรงค์ จันทร์ประจักษ์ อายุ 54 ปี มีอาชีพรับจ้างขับรถในโรงงานแห่งหนึ่ง นอนคว่ำหน้า มีผ้าห่มคลุมตัวเสียชีวิต ในมือขวายังถือโทรศัพท์ ส่วนมือข้างซ้ายกำธนบัตรใบละ 20 บาท จำนวน 4 ใบไว้แน่น ตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือการถูกทำร้าย เพียงแต่ผู้ตายไม่สวมเสื้อ เบื้องต้น ตำรวจ สันนิษฐาน ผู้ตายน่าจะเมาสุราอย่างหนักจนเดินไม่ไหว เลยล้มลงนอนกับพื้น ประกอบกับอากาศที่เย็นจัด เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ผู้เสียชีวิต เกิดอาการช็อกนอนหนาวตาย
ส่วนที่จ.นครราชสีมา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกับ ทหาร ได้เร่งซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชน ที่ได้รับความเสียหาย จากพายุฤดูกาลพัดถล่มใน 5 อำเภอ 11 ตำบล ได้แก่ อ.ขามทะเลสอ อ.เทพารักษ์ อ.ชุมพวง อ.บัวใหญ่ และ อ.ประทาย กว่า 150 หลังคาเรือน และเสียหายหนักสุด ที่ ต.นางรำ อ.ประทาย บ้านเรือนพังเสียหาย 95 หลังคาเรือน โดยจัดสรรงบประมาณเป็นค่าวัสดุก่อสร้างให้ครัวเรือน ละไม่เกิน 33,000 บาท.-สำนักข่าวไทย
