พระนครศรีอยุธยา 4 ต.ค.- เขื่อนพระรามหกเร่งปล่อยน้ำ 536 ลบ.ม./วินาที แม่น้ำป่าสักขึ้นสูง ห่วงล้นตลิ่งท่วมริมฝั่ง 2 อำเภอ ด้านอำเภอนครหลวงจัดงบทำคันดินสูงกว่าเมตรป้องนาข้าว 20,000 ไร่ ขณะที่ชาวบ้านแพนดีใจนายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่พรุ่งนี้
นายวิทิต ปิ่นนิกร นายอำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เขื่อนพระรามหกได้เพิ่มการระบายน้ำลงแม่น้ำป่าสักที่ 536 ลบ.ม./วินาที ทำให้แม่น้ำป่าสักตอนล่าง เขตอำเภอท่าเรือ และอำเภอนครหลวง มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น จึงต้องเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชน โดยระดับน้ำหน้าตลาดท่าเรือขณะนี้ยังต่ำกว่าตลิ่ง 1.40 เมตร
ส่วนนายสมบุญ จำพรต กำนันตำบลแม่ลา อำเภอนครหลวง กล่าวว่า น้ำจากแม่น้ำป่าสักบางส่วนไหลเข้าคลองบางพระครู มีแนวโน้มจะเอ่อล้นเข้ากลางทุ่งแม่ลา เนื้อที่กว่า 20,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 3 ตำบล คือ ตำบลแม่ลา ตำบลพระนอน และตำบลท่าช้าง ซึ่งทุ่งนี้ไม่ใช้ทุ่งแก้มลิงรับน้ำเหนือหลาก จึงมีแปลงนาข้าวที่กำลังเติบโตจำนวนมาก ทางนายอำเภอนครหลวงได้จัดส่งงบประมาณด่วน 300,000 บาท มาเสริมคันดินตลอดแนวคลองกลางทุ่งสูงขึ้นอีก 1 เมตร ยาว 3 กิโลเมตร เพื่อป้องกันนาจมน้ำ
สำหรับแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยเริ่มลดลง เนื่องจากเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ได้ควบคุมการปล่อยน้ำที่ 1,717 ลบ.ม./วินาที จากเดิมเกือบ 2,000 ลบ.ม./วินาที ทำให้น้ำท่วมลดลงเช่นกัน คงเหลือพื้นที่ชุมชนริมฝั่งในเขตอำเภอบางบาล เสนา ผักไห่ ยังท่วมสูงเกือบ 1 เมตร
ส่วนวันพรุ่งนี้ (5 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมชุมชนสองฝั่งแม่น้ำน้อย ที่วัดโบสถ์ล่าง ต.บ้านแพน อ.เสนา ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่เมื่อทราบข่าวต่างดีใจที่จะนายกรัฐมนตรีจะมาเยี่ยมเยียนประชาชนและดูข้อเท็จจริง เพราะถูกน้ำท่วมสูง
นางถนอม เพิ่มพลสิริวัฒนา อายุ 74 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ตำบลบ้านแพน ระบุว่า หากมีโอกาสได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีนอกจากจะให้กำลังใจในการทำงานและแก้ปัญหาบ้านเมืองแล้ว อยากให้ช่วยเหลือปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก เพราะทุกครั้งน้ำเหนือหลากมาจะท่วมสูงและนาน รวมทั้งขอให้รัฐบาล โดยเฉพาะกรมชลประทานวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ.-สำนักข่าวไทย