ศธ.เเจงข้าราชการซี 8 โกงเงิน 88 ล้านบาท

ศธ. 9 มี.ค.-รมว.ศธ.นำแถลงชี้แจง ‘ทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต’ พบการโอนเงินทุนการศึกษาเด็กยากไร้ เข้าบัญชีบุคคลอื่น ตั้งแต่ปี 51-61 กว่า 88 ล้าน เบื้องต้นพบเกี่ยวข้อง 5 รายเป็นข้าราชการระดับซี 8 รับสารภาพแล้ว 1 ราย โทษร้ายแรงถึงขั้นไล่ออกจากราชการ ขณะเดียวกันส่งข้อมูลให้ ‘ป.ป.ท.-ป.ป.ช.-ปปง.’ ตรวจสอบไปพร้อมกัน


นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมด้วยนายการุณ  สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ แถลงข่าวกรณีกลุ่มตรวจสอบภายในสำนักงานปลัด ศธ.ทำการตรวจสอบบัญชีงบประมาณ ประจำปี 2560 ของสำนักงานปลัด ศธ. แล้วพบว่ามีการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต โดยโอนเงินทุนการศึกษาของนักเรียนในโครงการเข้าบัญชีของบุคคลอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตั้งแต่ปี 2551-2561 เป็นจำนวนเงินรวมกว่า 88 ล้านบาท ว่า กองทุนฯดังกล่าว ดำเนินการมาเป็นเวลา 15 ปีแล้ว มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดสรรเงินช่วยเหลือให้กับผู้ยากจนที่ต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิต  อีกส่วนเป็นทุนสำหรับเด็กหญิงที่อยู่ในสภาวะยากลำบาก หรือเด็กตกเขียว ให้มีทุนการศึกษาในระดับวิชาชีพ และให้ทุนกับสถาบันการศึกษาที่สอนด้านครู และพยาบาล 


นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อไปว่า กองทุนดังกล่าวใช้งบประมาณเริ่มต้นจากสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 600 ล้านบาท โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มตรวจสอบบัญชีฯ ได้ทำการตรวจ และได้พบปัญหาว่ามีการยักยอกโอนเงินเข้าบัญชีพรรคพวก ญาติพี่น้องตนเองรวมกว่า 88ล้านบาท เฉพาะปี 2560  เป็นเงินประมาณ 10 กว่าล้านบาท ซึ่งทันทีที่ทราบปัญหาดังกล่าว สั่งการให้นายการุณ แจ้งความดำเนินคดีทันทีในหลายกระทง  รวมถึงส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  เเละสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน  เพื่อตรวจสอบไปพร้อมกัน


อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มีข้าราชการฝ่ายปฏิบัติ ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 5 ราย ซึ่งเป็นข้าราชการระดับ 8 ที่ผู้รับผิดชอบหน้าที่มาโดยตลอด รับสารภาพว่า ทำจริงแล้ว 1 ราย ซึ่งต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะจากการตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องนี้ไม่น่าทำคนเดียว เบื้องต้นได้ย้ายข้าราชการทั้ง 5รายไปปฏิบัติหน้าที่ยังหน่วยงานอื่นแล้ว ส่วนผู้ที่รับสารภาพ 1 ราย ถือว่ามีโทษร้ายแรงถึงขั้นไล่ออกจากราชการ รวมถึงจะต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมายด้วย ขณะเดียวกัน หากมีการตรวจสอบแล้ว พบว่า มีการโอนเงินเข้าบัญชีบุคคลใดอย่างไม่ถูกต้อง เจ้าของบัญชีถือว่ามีความผิดด้วย  

รมว.ศึกษาฯ กล่าวอีกว่า กรณีนี้เป็นการทุจริตที่เกิดขึ้นในระดับปฏิบัติการ มีการยักยอกเงินของคนที่ควรจะได้ไป ซึ่งทันทีที่ตรวจสอบพบไม่ได้รอช้า ดำเนินการตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว ทำทุกอย่างเพื่อจะคืนความยุติธรรม ขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ผ่านมาปลัดศธ.ที่ดำรงตำแหน่งในช่วงนั้น อนุมัติเงินเพื่อส่งให้เด็ก ซึ่งเท่าที่ทราบปลัดศธ.ในช่วงนั้นไม่ได้เกี่ยวข้อง อยู่ที่กระบวนการซึ่งฝ่ายปฏิบัติได้ไปโอนเงินแต่แทนที่จะโอนเงินเข้าบัญชีผู้รับทุน ก็โอนเงินให้กับพรรคพวกและญาติพี่น้องของตนเอง พอฝ่ายตรวจสอบบัญชีตรวจสอบพบ ก็ดำเนินการตรวจสอบย้อนหลังพบว่า มีการโอนเงินให้กับผู้รับทุนไปจำนวน77 ล้าน แต่ยักยอกเงินไปถึง 88ล้านบาท 

ทั้งนี้ได้สั่งการให้ไปตรวจสอบเพิ่มเติมว่า บัญชีผู้รับทุนมีจำนวนเท่าไร และผู้รับทุนได้รับเงินที่ควรจะได้หรือไม่ หากไม่ได้รับจะให้ผู้รับทุนไปแจ้งความว่ามีการยักยอกเงินด้วย ขณะเดียวกันให้ตรวจสอบไปยังกองทุนฯอื่น ๆ ด้วยว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นหรือไม่ และดูระบบการโอนเงินว่า มีการรั่วไหลได้ที่ช่องทางใดบ้าง ทุจริตตรงขั้นตอนใด ส่วนกรณีผู้รับทุนแต่ไม่ได้รับเงิน ต้องหาว่ามีช่องทางใดที่จะเยียวยาได้บ้าง 

นอกจากนี้จากการตรวจสอบ ยังพบว่า ที่ผ่านมาเด็กที่ไม่ได้รับเงิน มีการสอบถามเข้ามาบ้าง โดยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติใช้วิธีหมุนเงิน จึงทำให้เรื่องเงียบไปบ้าง ดังนั้นตอนนี้จึงยังไม่รู้ว่า เงินที่ยังไม่ได้โอนมีเท่าไร แต่ตนในฐานะ ที่ดูแลศธ. จะให้ความเป็นธรรม

ด้านนายการุณ กล่าวว่า จะมีการไปตรวจสอบบัญชีปลายทางของบุคคล ที่โอนไป 19-20 บัญชีบุคคล มีเด็กที่ได้เงินจากกองทุนไปแล้วกี่คน มีเด็กที่ไม่ได้เงินจากกองทุนกี่คน ใครบ้าง โดยสำรวจทั้ง 3 กลุ่มสถานศึกษา ได้แก่ กลุ่มโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ กลุ่มโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ และกลุ่มวิทยาลัยพยาบาล เมื่อได้ตัวเลขแล้วจะนำเข้าสู่คณะกรรมการกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต พิจารณาว่าจะมีช่องทางการเยียวยาอย่างไรบ้าง

นายการุณ กล่าวต่อว่า ขั้นตอนการจ่ายเงินกองทุนฯ นั้น ต้องมีการหารือที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ ว่าจะอนุมัติทุนกี่ราย ใครบ้าง และเป็นมติของที่ประชุมเสนอผู้บริหารอนุมัติเห็นชอบ จากนั้นฝ่ายปฏิบัติ ได้แก่ กองคลัง สำนักอำนวยการ ของสป.ศธ. ก็จะดำเนินการเบิกจ่ายตามขั้นตอน 

ซึ่งจากการตรวจสอบการโอนเงินของกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2551 ถึงเดือนมีนาคม 2561 พบว่ามีการอนุมัติเงิน 166,347,721 บาท เป็นการโอนเงินเข้าบัญชีหน่วยงาน 77,531,072 บาท และเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีบุคคล 88,816,640 บาท เบื้องต้นพบเป็นบัญชีญาติของข้าราชการคนนั้น

สำหรับการโอนเงินแต่ละปีจำแนกดังนี้  

ปี 2551 และ 2553 ระบบบัญชียืนยันว่าได้จ่ายแล้ว  แต่ยังไม่รู้ชัดเจน  อยู่ระหว่างการตรวจสอบ 

ส่วนปี 2552 อนุมัติ 10,892,422บาท โอนบัญชีหน่วยงาน 8,571,276 บาท โอนบัญชีบุคคล 2,320,968 บาท 

ปี 2553 อนุมัติ บาท โอนบัญชีหน่วยงาน บาท โอนบัญชีบุคคล  บาท 

ปี 2554 อนุมัติ 11,409,860 บาท โอนบัญชีหน่วยงาน 7,377,460 บาท โอนบัญชีบุคคล 4,032,400 บาท 

ปี 2555 อนุมัติ 25,407,608 บาท โอนบัญชีหน่วยงาน 9,074,336 บาท โอนบัญชีบุคคล 16,332,272 บาท 

ปี 2556 อนุมัติ 37,047,000 บาท โอนบัญชีหน่วยงาน11,806,000 บาท โอนบัญชีบุคคล 25,241,000 บาท 

ปี 2557 อนุมัติ 10,997,000 บาท โอนบัญชีหน่วยงาน 8,754,000 บาท โอนบัญชีบุคคล 2,243,000 บาท 

ปี 2558 อนุมัติ 35,227,000 บาท โอนบัญชีหน่วยงาน 16,954,000 บาท โอนบัญชีบุคคล 18,273,000 บาท 

ปี 2559 อนุมัติ 18,717,000 บาท โอนบัญชีหน่วยงาน14,169,000 บาท โอนบัญชีบุคคล 4,548,000 บาท 

ปี 2560 อนุมัติ 13,625,000บาท โอนบัญชีหน่วยงาน 825,000  บาท โอนบัญชีบุคคล 12,800,000 บาท 

ปี 2561 ถึงเดือนมีนาคม อนุมัติ 3,025,000 บาท โอนเข้าบัญชีบุคคลทั้งหมด .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มกรุงอีก สูงสุด 107 มม. เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน

กทม. 6 ก.ย. – ฝนถล่มกรุงเย็นนี้ ปริมาณฝนสูงสุดแตะ 107 มม. ที่เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน หากไม่อ่อนกำลังจะเคลื่อนตัวเข้า กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์ฝนกรุงเทพมหานคร โดยมีสำนักการระบายน้ำ ร่วมให้ข้อมูล ณ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กทม.2 ดินแดง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ปริมาณฝนตกหนักไม่แพ้เมื่อวาน เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านประเทศไทยเป็นตัวดึงเมฆฝนเข้ามา โดยในขณะนี้ (เวลา 17.10 น.) ฝนยังคงตกต่อเนื่องในพื้นที่ชั้นในบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ ยังมีเมฆฝนอีกกลุ่มกำลังเคลื่อนตัวเข้ามา คาดว่าหากไม่อ่อนกำลังจะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ อีกระลอก จากการรายงานพบว่าปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดในรอบ 6 ชั่วโมงอยู่ที่ 107 มิลลิเมตร ที่เขตพระนคร ตามมาด้วย 98.5 มิลลิเมตร ที่เขตวัฒนาและห้วยขวาง ซึ่งถือว่าเกินกว่าขีดความสามารถของระบบระบายน้ำของ กทม. ที่ออกแบบไว้ให้รองรับปริมาณฝนที่ 60 มิลลิเมตร รายงานสถานการณ์ล่าสุดยังพบน้ำท่วมขังในถนนสายหลักและสายรองหลายแห่ง ถนนสายหลัก […]

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

รัฐมนตรีส่ง จนท.ทยอยขนของออกจากทำเนียบ

ทำเนียบ 6 ก.ย. – รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิม ส่งเจ้าหน้าที่ทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล​ หลัง​สภาฯ โหวตเลือก “อนุทิน​” นั่งนายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มมีการทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล หลังสภาฯ มีมติโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ บรรดารัฐมนตรีและทีมงานของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ส่งทีมงานทยอยเก็บของ ก่อนเวลาประมาณ​ 10.00 น.​ พบรถบรรทุก​ 6 ล้อ​ คลุมผ้าใบทึบ ออกจากบริเวณหลังตึกไทยคู่ฟ้า​ รวมไปถึงมีเจ้าหน้าที่มาล้างทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศใหม่ ทั้งตึกไทยคู่ฟ้า และตึกบัญชาการ 1 และมีการขนภาพวาดติดฝาผนังออกจากห้องทำงานของนางสาวหทัย ทิวไผ่งาม​ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ แม้ว่าจะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์​ มีการแจ้งเตรียมขนของของรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิมออก ทั้งวันเสาร์และอาทิตย์.-314-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สุดชิล ใส่เสื้อฮาวาย เข้าพรรคประชุมแกนนำ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” ว่าที่นายกฯ สุดชิล ใส่เสื้อฮาวายลายใบไม้ เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ประชุมแกนนำในวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ด้วยท่าทีผ่อนคลาย สีหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อฮาวายลายใบไม้ เมื่อมาถึงผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ แต่นายอนุทิน ขอตัวขึ้นไปประชุมก่อน และระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีข่าว ขณะที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมความพร้อมในการจัดงานพิธีสำคัญ ภายหลังมีแกนนำพรรค และว่าที่รัฐมนตรีตามโผ ครม.อนุทิน 1 เช่น นายภราดร ปริศนานันทกุล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ส่งช่อดอกไม้มาแสดงความยินดี รวมไปถึงต้นกล้วยไม้สีขาวก้านยาว ในกระถางพลาสติกสีเขียวอ่อนขนาดใหญ่ ประมาณ 1 คนโอบ ติดนามบัตรมีชื่อของนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด.-314-สำนักข่าวไทย