กทม. 6 มี.ค.-กรมอุทยานฯ ยืนยันเนื้อในหม้อซุปคณะล่าสัตว์ “เปรมชัย” คือเนื้อเสือดำเพศเมีย ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รอง ผบ.ตร. ประกาศไม่หวั่นไหวกับกระแสกดดันให้ออกจากการดูแลสำนวนคดี
ความคืบหน้าการดำเนินคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทยฯ พร้อมพวก กรณีเข้าไปล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ วันนี้ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ส่งมอบผลตรวจพิสูจน์อาหารในหม้อหุงต้มอาหาร และวัตถุพยานรอบพื้นที่ตั้งแคมป์ของคณะล่าสัตว์ จากผู้เชี่ยวชาญ ให้พนักงานสอบสวน 4 รายการ ประกอบด้วย
1. ชิ้นเนื้อที่พบในหม้อซุป กระดูกท่อนขา จำนวน 2 ชิ้น ลำไส้ และเส้นขน โดยพบว่าผลตรวจสอบเป็น เสือดำเพศเมีย และอวัยวะดังกล่าวเป็นของเสือดำตัวเดียวกัน
2. ชิ้นเนื้อที่อ้างว่าเป็นเก้ง ผลการตรวจพบว่าเป็น หมูป่า ซึ่งซากสัตว์ป่าที่พบในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้น ถือเป็นสัตว์ป่าในพื้นที่อนุรักษ์ การมีไว้ถือว่าผิดกฎหมายชัดเจน ไม่มีสิทธิ์โต้แย้ง
3.ชิ้นเนื้อที่อ้างว่าเป็นไก่ฟ้าหลังเทา ผลการตรวจพบว่าเป็น ไก่ฟ้าหลังขาว ตามกฎหมายถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองและห้ามล่าห้ามค้า จึงถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
4.อุจจาระที่พบ ผลการตรวจพบว่าเป็นอุจจาระของมนุษย์ แต่ไม่พบดีเอ็นเอของเสือดำ
5.วัตถุพยาน เช่น มีดอีโต้ มีดทำครัว มีดเหน็บ และเขียงพลาสติก ผลการตรวจพบว่า บางชิ้น มีดีเอ็นเอของเสือดำ ตัวเดียวกัน
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางไปติดตามความคืบหน้าด้วยตัวเอง ระบุว่าขณะนี้มีพยานหลักฐานอย่างชัดเจน ทำให้สำนวนคดีมีความคืบหน้ามาก แม้จะเป็นการกระทำความผิดในที่ลับตา แต่สามารถรวบรวมหลักฐานมาได้ ส่วนที่มีการรณรงค์ติดแฮชแท็กใน Facebook เพื่อให้ตนเองออกจากการดูแลสำนวนนั้น ไม่ส่งผลให้ท้อใจ เพราะทำไปตามกฎหมาย หากสิ่งใดไม่เข้ากับข้อกฎหมายก็ไม่สามารถบังคับใช้ได้
ก่อนหน้านั้นเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เดินทางไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือตำรวจ ปทส. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนางคณิตา วิทยานันท์ ภรรยานายเปรมชัย หลังผลตรวจงาช้างที่พบในบ้านพักนายเปรมชัย เป็นงาช้างแอฟริกาและไม่มีใบอนุญาตการครอบครองที่ถูกต้อง และภรรยาของนายเปรมชัยฯ มีชื่อเป็นผู้ครอบครอง โดยรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า พนักงานสอบสวนจะเรียกภรรยาของนายเปรมชัย เข้ารับทราบข้อกล่าวหาภายใน 10 วัน ทั้งข้อหาครอบครองซากสัตว์ป่าสงวน และ ซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท ส่วนจะมีแจ้งข้อกล่าวหาผู้อื่น ในความผิดร่วมกันครอบครองหรือไม่ อยู่ระหว่างการสอบสวน หากพยานหลักฐานสาวถึงผู้ใด ตำรวจก็จะดำเนินการตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย