ผู้ว่าฯ เพชรบุรี จ่อของบฯขยายคันคลองระบายน้ำลงทะเล

เพชรบุรี 4 มี.ค.- ผู้ว่าฯ เพชรบุรี เตรียมของบประมาณขยายคันคลองชลประทานระบายน้ำลงทะเล ป้องกันปัญหาน้ำท่วมและของบสร้างไผ่ชะลอคลื่น ป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง พร้อมให้ภาครัฐสนับสนุนการลงทุนด้านการท่องเที่ยวชุมชนในจังหวัดเพื่อสร้างรายได้



นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวถึงความสำคัญของแม่น้ำเพชรบุรี ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักที่สำคัญต่อคนเมืองเพชรบุรี โดยมีความยาวประมาน 210 กิโลเมตร เป็นแหล่งระบบนิเวศที่สำคัญและมีการใช้ประโยชน์ในหลายด้าน ด้วยเพราะมีความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ และการทำเกษตรกรรม แต่ปัจจุบันยังมีปัญหาน้ำท่วมอยู่จึงต้องเร่งแก้ไข ด้วยการวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการขุดลอกคูคลองเพิ่มพื้นที่ให้การผันน้ำลงสู่ทะเลได้คล่องตัวที่สุด พร้อมเตรียมของบประมาณเพื่อขยายคันคลองชลประทานให้กว้างขึ้นรองรับน้ำฝนปริมาณมากด้วย


ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้ฝากให้ประชาชนช่วยกันรักษาแม่น้ำเพชรบุรีซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของชาวเพชร ด้วยการสร้างนิสัยให้เป็นกิจวัตรประจำวันด้วยการไม่ทิ้งขยะ และช่วยกันเก็บผักตบชวาพร้อมขอให้ช่วยกันมีส่วนร่วมกับภาครัฐที่เข้าไปสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนด้วย

ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ยังกล่าวถึงเรื่องเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขคือ ปัญหาน้ำกัดเซาะตามแนวชายฝั่ง ขณะนี้พบว่าชายทะเลของจังหวัดเพชรบุรีกว่า 89 กิโลเมตร ถูกกัดเซาะเหลือเพียง 41กิโลเมตร โดยเตรียมของบประมาณเพิ่มเติมจาก ครม.เพื่อขยายแนวพื้นที่ปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นในชายหาดโคลน ระยะทาง 20 กิโลเมตร เพื่อให้มีพื้นที่ของโคลนและปลูกป่าชายเลนเสริมต่อไป ส่วนชายหาดทรายเตรียมทำโครงสร้างหนักตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลต่อไป


“ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง พบส่งผลกระทบใน 4 จังหวัดหลัก คือ จ.สมุทรสาคร, สมุทรสงคราม, เพชรบุรี และ ประจวบคีรีขันธ์ ในส่วนของพื้นที่เพชรบุรีได้รับผลกระทบเกือบครึ่งของพื้นที่ชายฝั่งทั้งจังหวัด โดยทางจังหวัดจะแบ่งการแก้ปัญหาออกเป็น 2 ลักษณะ คือ พื้นที่หาดโคลน จะมีการปักไม้ไผ่ เพื่อชะลอคลื่น ซึ่งจะเน้นในการก่อสร้างเบามากกว่าการก่อสร้างหนัก ขณะที่หาดทรายจะใช้โครงสร้างหนักซึ่งจะขึ้นอยู่แต่ละพื้นที่” นางฉัตรพร กล่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่านอกจาก 2 เรื่องเร่งด่วนที่เตรียมเสนอของบประมาณจาก ครม.สัญจร  ยังมีเรื่องเชิงนโยบายที่จะขอการสนับสนุนจากรัฐบาลคือการขอให้ส่งเสริมภาคการลงทุนด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดและการท่องเที่ยวในชุมชนต่างๆ ซึ่งแต่ละที่มีความพร้อมแต่ยังขาดความเชื่อมโยงระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการประชาสัมพันธ์ เส้นทางสัญจรและการบูรณาการด้านต่างๆ จึงอยากขอการสนับสนุนเพื่อสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชนแต่ละพื้นที่ด้วยโดยยังคงความเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละชุมชนไว้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำ

น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นไม่หยุด ล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือน ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายแบบขั้นบันไดต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. น้ำระบายท้ายเขื่อนที่ 2,200 ลบ.ม./วินาที

เร่งอพยพชาวบ้านหลายร้อยครอบครัว น้ำปิงยังสูง

แม้ระดับน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มลดลง หลังขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร แต่หลายชุมชนและย่านการค้ายังมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะพื้นที่ตอนใต้ของเมือง น้ำยังเพิ่มสูง หลายร้อยครอบครัวต้องอพยพด่วน

อิสราเอลโจมตีทางอากาศมัสยิด-โรงเรียนในกาซา ดับแล้ว 24

สำนักงานสื่อมวลชนของรัฐบาลกาซาที่กลุ่มฮามาสเป็นผู้ดำเนินการ กล่าวว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศโดยมีเป้าหมายเป็นมัสยิดและโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นฐานในฉนวนกาซา เมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย และบาดเจ็บอีก 93 ราย