ทอท.แจงไม่ได้ล็อคสเปคเปลี่ยนเครื่องตรวจวัตถุระเบิด 2.8 พันล้าน

กรุงเทพฯ  4 มี.ค. – ทอท.แจงโครงการจัดซื้อจัดจ้างเปลี่ยนเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดและปรับปรุงระบบลำเลียงกระเป๋า ไม่ได้ปิดกั้นหรือกำหนดตัวเอกชนในการจัดหาแต่อย่างใด 


นายนิตินัย  ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวถึงโครงการจัดซื้อจัดจ้างเปลี่ยนเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS)  26 เครื่อง และปรับปรุงระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) 2,800 ล้านบาท ว่า เมื่อพิจารณาจากความต้องการของ ทสภ. ซึ่งมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วที่ปรึกษาฯ จึงสรุปได้ว่าเครื่อง EDS ความเร็วสูง 0.5 เมตรต่อวินาที มีความเหมาะสมกับโครงการนี้ เนื่องจากมีความสามารถได้มาตรฐานความปลอดภัยที่สอดคล้องกับความต้องการของ ทสภ. และช่วยเพิ่มระดับการให้บริการของ ทสภ.ที่มีอัตราการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วได้ในอนาคต 

ทั้งนี้ สเปคการปรับปรุงใหม่ ทอท.ได้คำนึงถึงเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ ต้องมีความทันสมัยกว่าเดิมเป็นสำคัญ ไม่ใช่ประเด็นแค่เรื่องความเร็วเท่านั้น เนื่องจากเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็ว และเทคโนโลยีใหม่ที่จะนำเข้ามาต้องรองรับได้ในระยะยาว ถึง 13-15 ปีข้างหน้า หรือ ถึงปี 2578 นอกจากนี้ ในเชิงคุณภาพสเปคของเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดระบบใหม่นี้ต้องมีมาตรฐานระดับโลก ควรต้องได้รับการรับรองมาตรฐานจาก Transportation Security Administration (TSA) และการอนุมัติจาก ECAC Standard-3 หรือสูงกว่าของประเทศในกลุ่มยุโรป เนื่องจากทั้งประเทศสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศยุโรปต่างยอมรับสนามบินที่มีมาตรฐานในระดับเดียวกันในการบินเข้าประเทศ


จากรายงานผลการออกแบบตรวจสอบวันที่ 31 มีนาคม 2560 มีผู้ผลิตเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดรุ่นความเร็ว 0.5 เมตรต่อวินาทีที่ได้รับการรับรองจาก TSA  2 รายคือ เครื่อง MV3D ของบริษัท L3 Communications และ เครื่อง Hi-Scan10080XCT ของบริษัท Smith Detection และอยู่ในระหว่างขออนุญาต 2 ราย คือ เครื่อง CTX9800DSi ของบริษัท Morpho Detection และเครื่อง X1000 ของบริษัท SureScan ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่าเครื่อง CTX9800DSi ของบริษัท Morpho Detection เดิมนั้นปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Smith Detection แล้วจากการเข้าซื้อกิจการ ดังนั้น ข้อกำหนดรายละเอียดของการประกวดราคานี้จึงไม่ได้เป็นการปิดกั้นหรือกำหนดตัวเอกชนในการจัดหาไว้แต่อย่างใด

สำหรับกรณีที่นายวรพจน์ ยศะทัตต์ ตัวแทนขายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดยี่ห้อ CTX ในประเทศไทย กล่าวว่า ร่างทีโออาร์ประมูลงานโครงการนี้ ไม่แตกต่างจากร่างเดิมที่เคยทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้บริหาร ทอท. รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐบาล มีการกีดกันไม่ให้เครื่อง CTX เข้าร่วมประมูล โดยเฉพาะการกำหนดรุ่นที่มีความเร็วสายพานไม่น้อยกว่า 0.5 เมตรต่อวินาที ที่ได้รับการรับรองจาก TSA ซึ่งจะทำให้ CTX ไม่ผ่านคุณสมบัติทันที รวมถึงการจัดทำราคากลางจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดกับสายพานลำเลียงวงเงิน 2,800 ล้านบาท บริษัทที่ปรึกษาที่รับจ้างจัดทำทีโออาร์ไม่เคยสอบถามราคาเครื่อง CTX จากบริษัทมาก่อนนั้น ทอท.ขอชี้แจงว่าการจัดทำราคากลางของงานจ้างปรับปรุงระบบตรวจสอบวัตถุระเบิดฯ กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาฯ ได้มีการสอบราคาไปยังผู้ผลิตเครื่อง EDS ความเร็วสูง 0.5 เมตรต่อวินาที และได้รับการเสนอราคา ซึ่งเป็นราคาที่ครอบคลุมถึงงานปรับปรุงสายพานหน้าเครื่องและหลังเครื่องแล้ว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-3 องศาฯ อีสานอากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคเหนือ กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็นตอนเช้า ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่