สงขลา 26ก.พ.- หญิงวัย 39 ปี แจ้งความโดนมือดีฉกลูกชิ้นที่แขวนไว้บนมอเตอร์ไซด์ขณะจอดรถลงไปซื้อของ ชี้ราคาไม่กี่บาทแต่ไม่อยากให้ขโมยได้ใจ ขณะที่ตำรวจ สภ.ปาดังเบซาร์ แกะรอยรวบตัวผู้กระทำผิดได้ทันควัน พบของกลางถูกทอดกินหมดแล้ว
นางสาวภัทรวดี เส็ะเส็น อายุ 39 ปี เข้าพบและแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ว่าเมื่อ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 18.00 น. ได้เข้าไปซื้อของที่เฟรชมาร์ท ตรงข้ามธนาคารกสิกรไทย สาขาปาดังเบซาร์ โดยจอดรถจักรยานยนต์เอาไว้ด้านหน้าร้าน ซึ่งมีลูกชิ้นสดที่ซื้อมาจำนวน 2 ถุง ราคา 130 บาท แขวนไว้ที่หน้ารถ หลังจากซื้อของเสร็จ จึงได้ออกมาที่รถ พบว่าลูกชิ้นทั้ง 2 ถุงหายไป จึงได้ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านเฟรชมาร์ท โดยกล้องวงจรปิดของร้าน สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ ว่ามีผู้ชาย 1 คนใส่เสื้อฟุตบอลแขนสั้นสีเขียว กางเกงยีนส์ขาสามส่วน ขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่ใกล้ๆกับรถของตนเอง พร้อมกับเดินมาหยิบลูกชิ้นของตนแล้วขับรถไปหน้าตาเฉย ใช้เวลาแค่ประมาณ 1 นาที
นางสาวภัทรวดี กล่าวว่า จากที่ได้นำคลิปไปโพสต์ ทั้งๆที่ราคาของเพียงไม่กี่บาท เนื่องจากไม่ชอบการกระทำของผู้ที่ลงมือขโมย ที่ หากินกันง่าย ขโมยแม้กระทั่งลูกชิ้น และส่วนหนึ่งเพื่อต้องการเตือนภัยให้กับประชาชนทั่วไป ให้ระมัดระวัง อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกวดขันดูแล เพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในปาดังเบซาร์เป็นครั้งแรก แต่ไม่ค่อยมีคนแจ้งความ เนื่องจากคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆ ทำให้ผู้ที่ลงมือได้ใจ สำหรับบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นสถานที่ผู้คนพลุกพล่านตลอดทั้งวัน
ล่าสุดตำรวจชุดสืบสวน เข้าทำการควบคุมตัวนายกิตติกร อายุ 25 ปี หลังแกะรอยหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุขโมยลูกชิ้นจริง เพราะตนเองมีอาชีพรับจ้างแบกของ ที่โกดังแห่งหนึ่งใน แต่รายได้ไม่พอการใช้จ่าย วันที่เกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านแบบไม่มีจุดหมาย เห็นรถของผู้เสียหายจอดอยู่และมีถุงใส่ของแขวนอยู่ที่รถ จึงจอดรถและลงไปหยิบ ภายหลังพบว่าเป็นลูกชิ้นสด จึงได้นำมาทอดกินที่บ้านจนหมด เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ พร้อมควบคุมตัวนายกิตติกร ดำเนินคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย