จ.นครปฐม 21 ก.พ.-นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ติดตามโครงการไทยนิยม ตลาดประชารัฐนครปฐม ปรับรูปแบบการเกษตรใหม่ควบคู่ศาสตร์พระราชา ย้ำประชาชนต้องใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เลือกรัฐบาลที่ดูแลประชาชนทุกอาชีพ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมคณะเยี่ยมชม “ที่ดินพระราชทาน” ของนายแจ่ม สวัสดิ์โต ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานที่ดินให้จำนวน 20 ไร่ โดยพื้นที่ดังกล่าว ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปที่ดินในประเทศไทย ทั้งนี้ ปัจจุบันลุงแจ่มเสียชีวิตแล้ว และทายาทได้สืบทอดการทำนาบัวสร้างรายวันละ 2-3 พันบาท โดนนายกรัฐมนตรีได้พายเรือชมนาบัวอย่างอารมณ์ดี
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมตลาดน้ำบ้านศาลาดิน ซึ่งเป็นตลาดประชารัฐ ตามนโยบายของรัฐบาล ตลาดแห่งนี้เปิดบริการมา 3 เดือนแล้ว โดยจำหน่ายของกิน ของใช้ สินค้าโอท็อป พืชผัก ผลไม้ของคนในชุมชน เปิดบริการเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ แต่วันนี้เป็นกรณีพิเศษเปิดให้นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชม ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้พบปะประชาชนร่วมเวทีประชาคมเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมยั่งยืนระดับตำบล ในพื้นที่หมู่ 3 ต.มหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐมด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับว่า วันนี้มารับฟังปัญหา เพื่อนำไปแก้ไขให้ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจน สิ่งที่รัฐบาลนำมาแนะนำมีทั้งการเกษตรการท่องเที่ยว เพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้ โดยประชาชนต้องรวมกลุ่มกันเพื่อให้รัฐบาลสนับสนุน รัฐบาลไม่ต้องการให้ทุกคนทิ้งการเกษตร แต่ทำอย่างไรที่จะให้อยู่ได้ ต้องปรับรูปแบบการเกษตรใหม่ทั้งหมด พร้อมสร้างความเข้มแข็งของสหกรณ์ อย่าทำแบบเดิม เราต้องหันกลับมาดูเพื่อนบ้านด้วย ภาคเอกชนก็ต้องมาช่วยกันในเรื่องของการตลาดพร้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันข้างหน้าจะต้องใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า รัฐบาลจะให้ทุกคนทุกครัวเรือนไม่ได้ วันนี้ประชาชนต้องช่วยตัวเอง อย่าให้เขามาบิดเบือนว่าจะให้ราคาข้าวเท่านั้นเท่านี้ เพราะเมื่อขายไม่ออกจะเก็บไว้ที่ไหน และจะยิ่งจะทำให้ราคาข้าวตกกว่าเดิม สิ่งที่เขาทำมามันไม่ถูก ประชาชนต้องมีหลักคิด ไม่ใช่ได้ประโยชน์นิดหน่อยก็เอา อย่าให้ใครมายุแยงให้เกิดปัญหาอีกต่อไป การดำเนินโครงการต่าง ๆ ต้องไม่เกิดการทุจริตในทุกบาททุกสตางค์ ถ้าโครงการไทยนิยม ยั่งยืนครั้งหนึ่งไปได้ก็ต้องมีสอง สาม สี่ วันนี้รัฐบาลแก้ปัญหาไปแล้ว และคำว่าไทยนิยมคือคนไทยนิยมในการสร้างคุณงามความดีให้กับประเทศชาติ ให้กับส่วนรวมและครอบครัวอย่างยั่งยืน
“ส่วนเรื่องประชาธิปไตยไทย ต้องเป็นประชาธิปไตยยั่งยืน เป็นสากล ถึงเวลาเลือกตั้งก็ต้องไป ถ้าบอกไม่ไปเลือกตั้งดีกว่า อันนี้เสร็จเลย ต้องเลือกให้ดี ต้องรู้เรื่องประชาธิปไตยเป็นอย่างไร รัฐบาลที่ดีต้องเป็นของปวงชนชาวไทย คำว่าปวงชนนั้นแตกต่างจากประชาชน ถ้าประชาชนคือคนนั้นคนนี้ กลุ่มนั้นกลุ่มนี้ แต่ทั้งปวงชนชาวไทยคือทุกอาชีพ รัฐบาลต้องทำหน้าที่แทนทุกคน รัฐบาลนี้ดูแลทุกคน ปัญหาถึงได้เยอะ ผมพูดด้วยความจริงใจ หากมีคนมาแจกเงินถือว่ามีเจตนาไม่บริสุทธิ์ เพราะคงไม่มีอะไรที่จะได้มาเปล่า ๆ อย่าให้ใครมาบิดเบือน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
สำหรับภารกิจในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะไปพบเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมบ้านหนองจิก อ.กำแพงแสน จากนั้นเป็นประธานสักขีพยานในโอกาสที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมมอบโรงเรือนถอดประกอบรถไถและเครื่องสีข้าวให้ผู้แทนเกษตรกรที่สหกรณ์โคนมกำแพงแสน โดยนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการกล่าวกับสมาชิกสหกรณ์และประชาชน ราว 400 คน.-สำนักข่าวไทย
