พม.ยันสิ้นเดือนนี้ต้องมีคำตอบสรุปเรื่องทุจริตเงินที่ขอนแก่น และเชียงใหม่

กรุงเทพฯ 18 ก.พ. – พม.ยันสิ้นเดือนนี้ต้องมีคำตอบสรุปเรื่องทุจริตเงินที่ขอนแก่น และเชียงใหม่ พร้อมย้ำขอพิจารณาโครงการจะยกเลิกหรือไม่  เพราะตัวโครงการผ่านการคิดมาอย่างดี แต่ที่มีปัญหาอยู่ที่ตัวบุคคล


นางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ(พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทยถึงเรื่องความคืบหน้าการทุจริตการจ่ายเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ป่วยเอดส์ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ซึ่งพบการทุจริตในหลายพื้นที่ ว่า ตามข้อมูลที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ทางกรมพัฒนาสังคมฯ ได้สั่งย้ายผู้อำนวยการทั้ง 2 จังหวัดออกมายังส่วนกลางแล้ว เพื่อให้เกิดความสะดวกในการทำงานของเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง  ยืนยันเรื่องที่เกิดขึ้นทางกรมพัฒนาสังคมฯ รู้สึกไม่สบายใจ และไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้ตั้งทีมสืบสวนลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อมูลศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั้ง 70 แห่งทั่วประเทศ เพื่อตรวจสอบหาข้อมูลทำงานคู่ขนานไปกับหน่วยงานที่ตรวจสอบไปก่อนหน้านี้   ล่าสุดทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ย้ำว่าภายในสิ้นเดือนนี้ กรมพัฒนาสังคมฯจะต้องมีสรุปคำตอบผู้ที่กระทำความผิด ผู้เกี่ยวข้อง ใน จ.ขอนแก่น และเชียงใหม่ มารายงานให้ได้


ส่วนที่มีข่าวว่าทาง ป.ป.ท.จะลงไปตรวจสอบพื้นที่ จ.บึงกาฬ หนองคาย และสุราษฎร์ธานี ในวันพรุ่งนี้(19 ก.พ.) กรมพัฒนาสังคมฯทราบข้อมูลในเรื่องนี้หรือไม่ นางสุจิตรา กล่าวว่า  ในทางข้อมูลยังไม่มีการรายงานเรื่องเข้ามา แต่หากพบก็พร้อมจัดการทันที เบื้องต้นคงจะต้องรอข้อมูลว่า จะมีพื้นที่ใดที่มีความผิดปกติในการเบิกจ่ายอีกหรือไม่   


ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องการทุจริตครั้งนี้จะนำไปสู่การยกเลิกโครงการนี้หรือไม่ นางสุจิตรา ตอบประเด็นนี้ว่า ทุกโครงการที่เกิดขึ้นผ่านการคิดการกลั่นกรองมาอย่างดี ว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้ยากลำบากได้อย่างไร  และทุกโครงการที่คิดมามีขั้นตอนมีมาตรการ ฉะนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่ที่โครงการ แต่ปัญหาอยู่ที่ตัวบุคคล การยกเลิกโครงการหรือไม่เป็นเรื่องของอนาคตที่ผู้บริหารต้องมาหารือกันอีกครั้งว่าจะทำอย่างไรต่อไป 

“เรามีระบบ เรามีมาตรการป้องกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้น จุดอ่อนอ่อนอยู่ที่ตัวบุคคล ในแต่ละศูนย์ บุคคลากรไม่เพียงพอ บางศูนย์มีการเปลี่ยนแปลงคนทำงานบ่อย จึงมีโอกาสที่ทำให้เกิดเรื่องขึ้นได้ ส่วนจะยุบโครงการนี้ไปหรือไม่ขอให้เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ขอพุ่งเป้าไปที่การสอบสวนลงโทษผู้กระทำผิดก่อน ใครผิดก็ว่าตามผิด แต่หากสอบแล้วไม่พบผิด ก็ต้องขอโทษ ขอโพย คืนความยุติธรรมให้กันไป ”นางสุจิตรา กล่าว

ส่วนในอนาคตทางกรมฯจะต้องเพิ่มความรอบคอบ และรัดกุมในการเบิกจ่ายให้มากขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมาจะย้ำอยู่ตลอด แต่ก็ยังเกิดเรื่อง  จึงจะต้องเพิ่มาตรการตรวจสอบ อาทิ ทุกครั้งที่มอบเงินสงเคราะห์จะต้องถ่ายภาพการส่งมอบเงินทั้งใบหน้าผู้รับ และผู้มอบเป็นหลักฐานให้เห็นชัดเจน ล้วส่งมาส่วนกลาง  //  นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้าจะแต่งตั้งคณะกรรมการจัดสรรเงิน ทำหน้าที่กลั่นกรองการขอเงิน เพื่อให้จัดสรรเงินได้เหมาะสมกับสภาพปัญหามากที่สุด และในการมอบเงิน จะให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯไปจ่ายเอง ไม่มอบกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไปมอบแทน 

ด้าน นายไมตรี อินทุสุต อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้แจ้งเรื่องความไม่ชอบมาพากลในการบริหารเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งประจำปีงบประมาณ 2560 ถึง พม. ลงวันที่ 30 มิ.ย.60 แต่เรื่องมาถึงตนวันที่ 15 ส.ค.60 หลังรับเรื่องตนได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยมีรองปลัดพม.เป็นประธาน กำหนดระยะเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงงภายใน 60 วัน ซึ่งในหนังสือที่สตง.ส่งมาให้ตรวจสอบเพียงระบุความไม่ชอบมาพากลการเบิกจ่ายเงิน ไม่ได้ระบุว่าเป็นพื้นที่ใด 

สมัยที่ตนเป็นปลัดพม.ได้มีหนังสือไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งเน้นย้ำไปถึงทุกหน่วยงานให้ดำเนิกการด้วยความโปร่งใสเพื่อให้เงินถึงผู้เดือนร้อนจริงๆ ขณะเดียวกันก็มีการลงพื้นที่สุ่มตรวจและเน้นย้ำต่อเนื่อง  และเมื่อตนเองเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 ก.ย.60 ก็เข้าใจว่าเมื่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบมีมูลก็ส่งเรื่องให้  พส. ดำเนินการตรวจสอบอีกครั้ง  ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการตรวจสอบตามกระบวนการอย่างต่อเนื่อง โดยยึดระเบียบราชการ ซึ่งต้องใช้เวลาและมีความรอบคอบระมัดระวัง เพราะการจะกล่าวโทษใครต้องมีพยานหลักฐานที่ขัดเจน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.