ปัตตานี 15 ก.พ.-แม่ทัพภาค 4 นำผู้เห็นต่างที่หลบหนีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน เพื่อร่วมกันพัฒนาชาติไทย โดยในวันนี้ได้ตรวจพิสูจน์สัญชาติอีก 103 คน
หน่วยงานภาครัฐประกอบด้วย ผู้แทนจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้แทนจังหวัดปัตตานี ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย และผู้แทนสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ชี้แจงต่อผู้ร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน ที่หน่วยเฉพาะกิจทหารพราน 44 อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ว่าหลังจากนี้จะพากลับบ้านมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านชั่วคราวที่ได้จัดตั้งขึ้น พร้อมฝึกอาชีพ และส่งเสริมการศึกษาให้ลูกหลาน เพราะเชื่อว่าทุกคนเป็นคนไทย แต่ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจพิสูจน์สัญชาติก่อน
นี่คือครั้งแรกที่ผู้ร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน 103 คน ได้มีโอกาสกลับภูมิลำเนา หลังจากที่ต้องพลัดถิ่นไปอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านมานานหลายปี พวกเขาได้กลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวอีกครั้ง บางคนจากบ้านมานานนับสิบปี มีภรรยาและลูกหลานที่ต่างแดน กลายเป็นคนไร้สัญชาติ เช่นชายชราอายุ 63 ปีคนนี้ เคยต่อสู้กับรัฐตั้งแต่อายุ 20 ปี เขาบอกว่ามูลเหตุจูงใจเกิดจากความรู้สึกไม่ยุติธรรม ที่เจ้าหน้าที่รัฐยิงอุซตาสเสียชีวิต เขาได้เชิญชวนผู้คนร่วมชุมนุมใหญ่หน้ามัสยิดกลางปัตตานีเมื่อปี 2514 และเข้าร่วมกลุ่มขบวนการ PULO ต่อสู้กับรัฐในเวลาต่อมา จนต้องหลบหนีอาศัยในประเทศเพื่อนบ้านอย่างหลบๆซ่อนๆ ทำให้ต้องจากบ้านและครอบครัวหลายปี นั่นคือจุดพลิกผันที่ทำให้เขาร่วมโครงการพาคนกลับบ้านเพื่อจะได้กลับมาใช้ชีวิตอยู่กับลูกหลานและครอบครัวที่บ้านเกิด
เขาพูดทั้งน้ำตา ขอบคุณแม่ทัพภาค 4 ที่ให้โอกาสได้กลับบ้านมาร่วมกันพัฒนาชาติไทย และยืนยันว่าไม่มีความคิดที่จะต่อสู้กับรัฐแล้ว
โครงการพาคนกลับบ้านเป็นแนวทางสันติวิธี เปิดโอกาสให้ผู้เห็นต่างที่ต่อสู้ด้วยอาวุธ กลับใจร่วมพัฒนาชาติไทย ดำเนินการตาม 6 ขั้นตอน เริ่มจากการสร้างความเข้าใจเชิญชวนผู้เห็นต่างเข้าร่วมโครงการ เรียกรายงานตัวปรับทัศนคติที่โรงเรียนการเมือง ก่อนจะปลดพันธะทางกฎหมายสำหรับผู้มีหมาย ป.วิอาญา และหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และตรวจดีเอ็นเอเข้ากระบวนการซักถาม ขั้นตอนสุดท้ายหากมีหมายต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่หากไม่มีหมาย สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติสุขได้ แต่เนื่องจากหลายคนหลบหนีไปนาน 30-40 ปี ไม่มีเอกสารใดๆยืนยันสัญชาติ พลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 จึงได้หารือกับกระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย และสภาความมั่นคงแห่งชาติถึงแนวทางปฏิบัติ เพื่อให้พวกเขามีบัตรประชาชนไทยเหมือนคนไทยทุกคน และคืนความยุติธรรม เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่กลับมาต่อสู้กับรัฐอีก
กระบวนการพิสูจน์สัญชาติใช้เวลาไม่เกิน 5 วัน ซึ่งจะต้องมีญาติพี่น้องมารับรองความสัมพันธ์ทางสายเลือด และในระหว่างนี้พวกเขาจะพักอยู่ที่บ้านพักภายในหน่วยเฉพาะกิจทหารพราน 44 เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ และเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยต่อไป.-สำนักข่าวไทย