กทม.15 ก.พ.-สาวนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตัดสินใจแจ้งกองปราบเอาผิดข้าราชการระดับ ผอ.สังกัดดีเอสไอ ลวงไปข่มขืนและถ่ายคลิปวีดีโอไว้แบล็คเมล์ พร้อมข่มขู่เรียกเงิน 2 ล้านแลกไม่บอกกับครอบครัว
หญิงสาวเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พร้อมญาติ และทนายความเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ระบุว่าถูกข้าราชการตำแหน่งผู้อำนวยการ ระดับซี 9 สังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI กระทรวงยุติธรรม ข่มขืน โดยระบุว่า เมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 ได้รู้จักกับข้าราชการรายนี้ผ่านทาง facebook ก่อนนัดรวมตัวกันไปทำบุญที่วัดในจังหวัดระยอง กับกลุ่มเพื่อนแต่ข้าราชการรายนี้นัดให้ออกมาพบกันก่อนที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี อ้างว่า ไม่รู้จักเส้นทางไปวัด พร้อมออกอุบายว่าจะมอบพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ให้ แต่ต้องไปรับที่ห้องพักในคอนโดมิเนียม ห่างออกไปไม่มากนัก พอไปถึงห้อง ก็ถูกชายคนดังกล่าวใช้อาวุธปืนบังคับขืนใจ พร้อมถ่ายคลิปวีดีโอไว้
หลังจากนั้นก็ใช้คลิปวิดีโอมาต่อรองข่มขู่ไปพบและบังคับข่มขืนอีก 2 ครั้ง ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในพัทยา และโรงแรมในจังหวัดฉะเชิงเทรา ระหว่างนั้นมีการสร้างพยานหลักฐานเท็จ โดยพาไปที่ต่างๆพร้อมถ่ายรูปคู่เหมือนว่าเป็นการคบหากันด้วยความสมัครใจแบบชู้สาว ต่อมาตนถูกภรรยาของข้าราชการคนดังกล่าว ฟ้องร้องต่อศาลในข้อหาชู้สาวและทำให้เสื่อมเสีย โดยใช้ภาพถ่ายที่ถูกสร้างขึ้นเป็นหลักฐานในการฟ้องร้อง อีกทั้งยังบังคับไม่ให้ไปให้การกลับศาลในชั้นสืบพยานจนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่ามีความผิดจริง ระหว่างถูกฟ้องร้องข้าราชการคนดังกล่าวและภรรยา ได้เรียกเงินจำนวน 2,000,000 บาท แลกกับการไม่เอาความและไม่เผยแพร่เรื่องดังกล่าวกับครอบครัว เชื่อว่าทำกันเป็นขบวนการ
ผู้เสียหายให้การต่อว่า ระหว่างเกิดเหตุพยายามร้องเรียนกับกระทรวงยุติธรรมและกรมสอบสวนคดีพิเศษให้ดำเนินการกับข้าราชการคนดังกล่าว กระทั่งมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและมีผลการสอบสวนออกมาในปี 2559 ว่า มีความผิดจริงแต่เป็นความผิดเล็กน้อยลงโทษโดยถูกตัดเงินเดือน ตนจึงตัดสินใจหนีเรื่องดังกล่าวไปอยู่ต่างประเทศนานกว่า 2 ปี ก่อนเดินทางกลับมาและเข้าแจ้งความที่กองปราบปรามเพื่อเอาผิดกับข้าราชการรายนี้ เพราะทนกับการถูกกระทำและข่มขู่ไม่ไหวอีกต่อไป
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน กองกํากับการ 1 กองปราบปรามได้รับเรื่องไว้ดำเนินการ ก่อนนัดหญิงสาวผู้เสียหายมาให้การเพิ่มเติมภายหลัง.-สำนักข่าวไทย