กทม. 14 ก.พ. – วันนี้จะพาไปรู้จักกับอีกหนึ่งธุรกิจในช่วงวันวาเลนไทน์และได้รับความนิยมไม่น้อยเลยดีทีเดียวในบ้านเรา นั่นก็คือบริษัทจัดหาคู่ ทางเลือกของคนโสดที่ไม่อยากโสด จะเป็นอย่างไร
บริการจัดหาคู่ เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนโสดที่เติบโตขึ้นทุกปี มีมูลค่าธุรกิจจัดหาคู่เฉพาะในเมืองไทย อยู่ที่ 1,000-2,000 ล้านบาท โดยเฉพาะฤดูหนาวและใกล้ช่วงวันวาเลนไทน์จะมียอดลูกค้าเพิ่มขึ้น 20% จากช่วงปกติ
แม้ค่าบริการเริ่มต้นตั้งแต่ 10,000-600,000 บาท ขึ้นกับแพ็กเกจคุณสมบัติของคู่เดตและจำนวนการเดต แต่ปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าอยู่มากกว่า 1,000 คน ช่วงอายุ 23-65 ปี ทั้งชายและหญิงในสัดส่วนใกล้เคียงกัน และเป็นคนไทยถึงร้อยละ 85 ส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศ หมอ เจ้าของกิจการ กลุ่มอาชีพอิสระ ผู้ที่ได้เจอผู้คนน้อยหรืออยู่ห่างไกล เช่น ทำงานบนแท่นขุดเจาะ เป็นต้น มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท/เดือน
ลูกค้าทุกคนที่สมัครใช้บริการหาคู่จะต้องเข้ามาพบ Matchmaker หรือ “แม่สื่อ” ที่ออฟฟิศ เพื่อตรวจสอบทุกโปรไฟล์ ทั้งสถานภาพ การศึกษา การทำงาน และยังมีเดตโค้ชชิ่งสอนการจีบ พัฒนาความสัมพันธ์ สร้างความมั่นใจ ก่อนจะออกเดตจริงๆ รวมทั้งรับปรึกษาปัญหาความรัก สมาชิกหาคู่ส่วนใหญ่มักตกลงศึกษาและคบกันจริงจัง หลังรู้จักกันได้ 2 เดือน และแต่งงานกันภายใน 8 เดือนนับจากเดตแรก
สำหรับสเปกเนื้อคู่ในฝัน ส่วนใหญ่ผู้หญิงจะชอบผู้ชายที่มีหน้าที่การงานมั่นคง ฐานะดี มีความเป็นผู้นำ ขณะที่ผู้ชายชอบผู้หญิงหน้าตาสะสวย รูปร่างดี เป็นหลัก ส่วนช่วงอายุทั้งหญิงชาย เปิดรับคนที่มีอายุแตกต่างกันได้ 5-7 ปี
ส่วนใครที่ยังโสดก็แนะเคล็ดลับง่ายๆ สาวๆ แค่ต้องดูแลตัวเอง ส่วนหนุ่มๆ ก็ต้องรักษาความสะอาดและขยันทำมาหากิน ก็ไม่ไร้คู่แล้ว
การตั้งสเปกไว้สูงมากเป็นเหตุผลที่ทำให้หาคนถูกใจยาก ส่วนการมาใช้บริการบริษัทหาคู่ไม่ได้หมายความว่าลูกค้าจะประสบความสำเร็จเสมอไป แต่ก็ยังมีคนที่พยายามตามหาคู่แท้แม้ว่าจะใช้เวลานานหลายปี
แม้จะไม่สามารถตอบได้ว่าแต่ละคนจะเจอเนื้อคู่อย่างไร อาจขึ้นอยู่กับพรหมลิขิตว่าขีดเส้นชะตาชีวิตเราไว้อย่างไร แต่การมีบริษัทจัดหาคู่เกิดขึ้นก็เป็นเหมือนอีกทางด่วนที่ช่วยให้พรหมลิขิตให้เนื้อคู่เจอกันรวดเร็วขึ้น. – สำนักข่าวไทย