กทม.8 ก.พ.- ผอ.สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพบก ตรวจสอบทีมวิจัยหน้ากากป้องกันสารพิษของกองทัพ เหตุต้องสงสัยความไม่ชอบมาพากลของเอกสารบางฉบับ
ที่กองปราบปราม พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ เชื้อสมบูรณ์ ผอ.สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพบก แจ้งความดำเนินคดีกับทีมวิจัยโครงการวิจัยและพัฒนาการพัฒนาหน้ากากป้องกันสารพิษทางทหารเพื่อใช้ภายในประเทศ โดยใช้งบประมาณจากโครงการทุนพัฒนาศักยภาพนักวิจัยด้านยุทโธปกรณ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพของกองทัพและการป้องกันประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2560 ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือ สกอ. ซึ่งได้จัดสรรงบวิจัยเป็นเงินกว่า 3,800,000 บาท ระยะเวลาวิจัยรวม 18 เดือน คณะนักวิจัยดังกล่าวประกอบด้วย รศ.สังกัดม.เกษตรศาสตร์, ผศ.ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, ข้าราชการทหารยศพันเอกและร้อยเอก สังกัดสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพบกและกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก รวม 7 คน โดยจากการตรวจสอบเอกสารงานวิจัยพบว่ามีใบรับรองมาตรฐานสากลงานวิจัย 1 ฉบับที่สงสัยว่าอาจเป็นเอกสารปลอม เนื่องจากมีการตรวจสอบในทางลับกับสถาบันที่ถูกกล่าวถึง 1-2 ฉบับ ปฏิเสธการรับรองงานวิจัยชิ้นดังกล่าว โดยระบุว่า ไม่เคยรับรองผลงานวิจัยให้กับโครงการดังกล่าว ลายเซ็นที่ใช้ในการรับรองก็ไม่ใช่ เอกสารดังกล่าวเป็นของปลอม
พล.ต.ศักดิ์สิทธิ์ กล่าวว่า งานวิจัยดังกล่าวเป็นของปีงบประมาณ 2560 ซึ่งทีมวิจัยดังกล่าวได้เข้ามาดำเนินการวิจัยและพัฒนาให้แต่จากการส่งข้อมูลเป็นเอกสารงานวิจัยเจ้าหน้าที่พบความผิดปกติตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา จึงเกรงว่าหากโครงการดังกล่าวเข้าสู่ขั้นตอนการผลิตอย่างเต็มตัว ซึ่งจะมีทุนในการผลิตและวิจัยเพิ่มเติมอีกรวมกว่า 150 ล้านบาทจะทำให้กองทัพได้รับความเสียหายจากผลิตภัณฑ์หน้ากากป้องกันสารพิษที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน และอาจเป็นอันตรายต่อทหารที่ลงไปปฏิบัติการในพื้นที่จริง จึงจำเป็นต้องเข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้กองปราบปรามตรวจสอบข้อมูลงานวิจัยดังกล่าวว่ามีความผิดปกติจริงตามที่กองทัพสงสัยหรือไม่ หากพบว่าทีมวิจัยดังกล่าวมีการปลอมแปลงเอกสารจริง ก็จะประสานไปยัง สกอ. ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าของงบประมาณวิจัยเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับทีมวิจัยดังกล่าวด้วย
ด้านพ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า เบื้องต้น จะสอบปากคำเจ้าหน้าที่ทหารที่พบความผิดปกติ และผู้เกี่ยวข้องอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่ากรณีดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามข้อกฎหมายใด หากพบว่ามีความผิดจะให้ทางกองทัพแจ้งความดำเนินคดี ก่อนจะออกหมายเรียกทีมวิจัยที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูลปากคำอย่างละเอียดกับพนักงานสอบสวนอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย
