รู้จัก “เสือดำ” สมบัติล้ำค่าของผืนป่าไทย

อสมท 8 ก.พ.-“เสือดำ” สัตว์ป่าคุ้มครองเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ที่กำลังถูกพูดถึงมากในขณะนี้ แท้จริงแล้ว คือเสือดาว ที่เกิดความผิดปกติทางพันธุกรรมทำให้มีขนเป็นสีดำและมีลายดอกจางๆ ปัจจุบันเหลือน้อยลง จากการถูกล่า และบุกรุกพื้นที่ป่า


ข้อมูลจากกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF ระบุว่า เสือดำ เป็นครอบครัวเดียวกับเสือดาว (Leopard) ที่เราคุ้นเคยกัน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จัดอยู่ในวงศ์เสือและแมว (Felidae) เป็นเสือขนาดใหญ่รองจากเสือโคร่ง (Panthera tigris) เสือดาวบางตัวเกิดความผิดปกติทางพันธุกรรมทำให้มีขนเป็นสีดำและมีลายดอกจาง ๆ จึงเรียกว่า “เสือดำ” โดยลายดอกจางๆจะสังเกตเห็นชัดเจน เมื่ออยู่ในแสงแดด อาศัยอยู่ในป่าได้ทุกชนิด ทั้งป่าทึบ ป่าโปร่ง และป่าที่มีโขดหิน ทนอากาศร้อนได้ดีกว่าเสือโคร่ง ปัจจุบันพบในประเทศไทย ประมาณ 100-130 ตัว แต่อัตราส่วนการเกิดเสือดำนั้นมีไม่มากนัก 


“ดำรงค์ พิเดช” อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวในรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งว่า “เสือดาวออกลูกมา 3 ตัว จะเป็นเสือดำ1ตัว เสือดาว 2 ตัว ถ้าเสือดำผสมกัน จะออกลูกเป็นเสือดาว 2 ตัว เสือดำ 1 ตัว” จะเห็นได้ว่าโอกาสเกิดน้อยมาก ทั้งนี้ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ปัจจุบัน จัดให้เสือดาว/เสือดำ เป็นสัตว์คุ้มครอง รวมถึงบัญชีแดงสหภาพเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ที่จัดให้อยู่ในสถานะสัตว์ป่าที่มีความเสี่ยงขั้นอันตรายต่อการสูญพันธุ์ (Vulnerable) จากการถูกล่า และการบุกรุกพื้นที่ป่า

เสือดาว/เสือดำ ในเขตร้อนผสมพันธุ์กันได้ตลอดทั้งปี หลังจากผสมพันธุ์กันแล้วตัวผู้และตัวเมียอาจยังอยู่ด้วยกันอีกระยะหนึ่งก่อนจะจากกันไป ตัวเมียตั้งท้องนาน 90-105 วัน ออกลูกคราวละ 1-4 ตัว แม่เสือดาวจะเลือกถ้ำ ซอกหิน หรือโพรงไม้เป็นรัง ลูกเสือดาวแรกเกิดหนัก 400-700 กรัม เริ่มเดินเมื่ออายุครบ 2 สัปดาห์ หย่านมเมื่ออายุ 4 เดือน และเมื่อมีอายุ 12-18 เดือน จะเริ่มออกหากินเอง อาจอยู่ร่วมกับพี่น้องครอกเดียวกันเป็นเวลาหลายเดือนก่อนที่จะแยกย้ายไปหากินตามลำพัง

พบกระจายอยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 10 กลุ่มป่า ทั่วทุกภาคของประเทศไทย แบ่งเป็นพบในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 13 แห่ง และอุทยานแห่งชาติ 16 แห่ง โดยพื้นที่ที่พบการกระจายขนาดใหญ่อยู่ในกลุ่มป่าตะวันตกและกลุ่มป่าแก่งกระจาน นอกนั้นพบกระจายตามพื้นที่อนุรักษ์ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ในป่าขนาดเล็ก และพื้นที่ป่าไม่ได้มีความต่อเนื่องกัน


การล่าสัตว์เป็นกิจกรรมที่สร้างความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ให้คนบางกลุ่ม แต่ผลกระทบที่ตามมาจากความสนุกเพียงครั้งคราวนั้น ไม่อาจประเมินเป็นมูลค่าได้ จากข้อมูลข้างต้นทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า เสือดำ ที่ถูกล่านั้น มีจำนวนน้อยลงทุกวัน นอกจากโอกาสเกิดจะยากแล้ว มนุษย์ยังเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้สัตว์ป่าเสี่ยงสูญพันธุ์ชนิดนี้ หายไปจากโลกของเรามากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า Wildlife Conservation Bureau, Thailand

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น