เซ็นทรัลเวิลด์ 7 ก.พ. – รมว.คลังเผยเตรียมจัดทำงบกลางปีอีก 1.5 แสนล้านบาท ขาดดุลปีนี้เพิ่มเป็น 5.5 แสนล้านบาท เน้นต่อยอดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน-ช่วยเพิ่มรายได้คนจน ยันไม่ขึ้นภาษี แต่เน้นขยายฐานกว้างขึ้น
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า กระทรวงการคลังเตรียมจัดทำงบประมาณกลางปีอีก 150,000 ล้านบาท โดยจะใช้รายได้ที่มีอยู่ 50,000 ล้านบาท และเงินกู้ 100,000 ล้านบาท ส่งผลให้ปีงบประมาณ 2561 จะขาดดุลงบประมาณเพิ่มเป็น 550,000 ล้านบาท จากเดิมกำหนดขาดดุลไว้ที่ 450,000 ล้านบาท ซึ่งยืนยันยังอยู่ในเสถียรภาพทางการเงินการคลัง โดยหนี้สาธารณะต่อจีดีพียังอยู่ในระดับที่ไม่สูงเกินร้อยละ 42 ซึ่งเชื่อว่ายังมีช่องทางและกำลังเพียงพอที่ยังสามารถนำเงินดังกล่าวไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานได้อีกระดับหนึ่ง ซึ่งเม็ดเงินงบประมาณที่ขาดดุลเพิ่มนั้น จะเน้นไว้ใช้ดำเนินการพัฒนาผู้มีรายได้น้อยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และมีช่องทางในการสร้างอาชีพมากขึ้น รวมถึงการพัฒนา จัดแบ่งโซนพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรอย่างมีประสิทธิภาพ และขับเคลื่อนให้ไทยเป็นประเทศที่ใช้เงินผ่าน ระบบ E-Payment โดยปีหน้าจะผลักดันให้หน่วยงานของรัฐใช้ระบบ E-Payment ในการรับ-จ่ายเงินให้หมด
ดังนั้น จึงมั่นใจว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างมั่นคงขึ้นแน่นอน ซึ่งสะท้อนได้จากทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยอยู่ในระดับสูงที่ 200,000 ล้านบาท ดุลการค้าและดุลการชำระเงินเป็นบวกและหนี้สาธารณะอยู่ในระดับที่ไม่กระทบต่อฐานะการเงินการคลัง
ส่วนแนวทางการจัดเก็บภาษีของรัฐในอนาคต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันจะไม่มีการปรับฐานภาษีเพิ่มขึ้น แต่จะขยายฐานให้กว้างขึ้น เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับสังคม ขณะที่การจัดเก็บภาษี E-commerce นั้น จะต้องมีการจัดเก็บ เพราะจะทำให้เกิดความเป็นธรรมสำหรับผู้ประกอบการทุกรายในพื้นฐานการแข่งขันทางการค้าเสรี .-สำนักข่าวไทย