สนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน 6 ก.พ.-ศรีสุวรรณนำผู้ประกอบการรถตู้ร้องผู้ตรวจฯ แก้ปัญหาผู้โดยสารลด ลูกจ้างตกงานหลังคสช.จัดะรเบียบให้ไปจอดในสถานีขนส่ง เผยบขส. เตรียมจัดระเบียบขายตั๋วรวม ส่อเอื้อประโยชน์เอกชน
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นำโดยนายศรีสุวรรณ จรรยา พร้อมด้วยนายบุญส่ง ศรีสกุล นายกสมาคมรถตู้ต่างจังหวัดและผู้ประกอบการรถตู้ต่างจังหวัด เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายฐนภณ ธนวชิรนนท์ เจ้าหน้าที่สอบสวนอาวุโสระดับสูง ขอให้ตรวจสอบการดำเนินการของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.) กรณีมีคำสั่งมาตรการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะตั้งแต่ปี 2557 ย้ายรถตู้โดยสารสาธารณะเข้าไปอยู่ในพื้นที่สถานีขนส่ง 4 แห่ง คือ หมอชิต เอกมัย สายใต้ใหม่และสายใต้เก่า ทั้งที่สถานที่ดังกล่าวยังไม่มีความพร้อมจะรองรับรถตู้โดยสารที่มีจำนวนมาก ทำให้ผู้โดยสารลดลงถึงร้อยละ 70 ผู้ประกอบการจำนวนกว่าครึ่งขาดทุน ต้องลดจำนวนรถตู้ลงเพราะคนใช้บริการน้อย อีกทั้งรายได้ไม่พอกับการส่งค่างวดรถ ที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานใดรับผิดชอบแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ทั้งที่เคยเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีถึง 7 ครั้ง แต่ไม่มีความคืบหน้า
หนึ่งในผู้ประกอบการรถตู้ กล่าวว่า มาร้องเรียนครั้งนี้เพราะรู้สึกเต็มที่กับปัญหาแล้ว จาก 1 ปี 4 เดือนที่ยอมย้ายไปตามคำสั่งคสช. ผู้โดยสารก็หาย แต่บริษัทขนส่งจำกัด(บขส.) กลับได้เงินจำนวนมหาศาล ทั้งที่พวกเราคนทำงาน หลายคนถูกปลด เด็ก ๆ ในวิน 300-400 คนไม่รู้จะทำอะไรเพราะความรู้น้อย จึงต้องหากินกับอาชีพนี้ จึงมาขอความเป็นธรรม ปัจจุบันรถตู้แบ่งเป็นหมวด จ. ช.และ ต. ที่กำหนดประเภทการจอดรับส่งผู้โดยสาร ซึ่งควรจะอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารได้ทุกจุดเหมือนกัน
“กรณีนี้น่าจะจัดระเบียบ แต่คสช.ก็ไม่ดำเนินการ ประกอบกับเมื่อย้ายเข้าไปอยู่ในสถานีขนส่ง จากเดิมเคยมี 14 ที่นั่งก็ต้องถอดเบาะออกให้เหลือ 13 ที่นั่ง รายได้ก็ลดลงเรื่อย ๆ และพยายามจะบังคับให้รถตู้ที่หมดอายุเปลี่ยนเป็นรถไมโครบัส โดยไม่ดูความพร้อมขอผู้ประกอบการ ปัจจุบัน 13 ที่นั่งคนยังนั่งไม่เต็ม กลับเอารถกว่า 2,000 คันไปกองรวมกันไว้ในสถานีขนส่ง” หนึ่งในผู้ประกอบการ กล่าว
ผู้ประกอบการ เปิดเผยว่า ได้รับผลกระทบจากการที่บขส.จะเปลี่ยนระบบการขายตั๋วที่เดิม ให้ผู้ประกอบการแต่ละวินขายเองมาเป็นการขายตั๋วรวม ซึ่งบขส.ได้มอบให้บริษัท ไอดี แม็กซิมั่ม จำกัดเป็นผู้ดำเนินการและหักเปอร์เซ็นต์จากค่าโดยสารทั้งหมด ร้อยละ 8 โดยจะเริ่มวันที่ 1 เมษายนนี้ ซึ่งไม่ทราบว่าบริษัทดังกล่าวได้รับการประมูลถูกต้องหรือไม่ หรือเอื้อให้เอกชนบางรายที่จะเป็นผู้มีอำนาจในการขายตั๋ววินทั้งหมด 190 สาย อีกทั้งในอนาคตยังมีแนวโน้มที่จะจัดเก็บเพิ่มเป็นร้อยละ 12-15
“เรื่องจีพีเอสที่ถูกกำหนดให้ติดกับรถตู้โดยสาร ก็ยังมีปัญหาไม่ตรงตามจริงทั้งสถานที่บอกตำแหน่งและความเร็ว ซึ่งทำให้ต้องถูกปรับ จึงอยากให้ตรวจสอบมาตรฐานและค่าบริการจีพีเอสที่ต้องเสียปี 3,000-3,600 บาท โดยระหว่างที่ยังไม่ชัดเจน อยากให้ผู้ตรวจการแผ่นดินประสานกับกรมการขนส่งชะลอเรื่องการบังคับใช้ไว้ก่อน.-สำนักข่าวไทย
