ภูมิภาค 5 ก.พ.- อากาศหนาวเย็นกลับมาอีกระลอก ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านที่อยู่บนดอยและติดริมฝั่งโขงโดยเฉพาะนักเรียน แต่มีผลดีต่อธุรกิจขายเสื้อผ้ากันหนาวและเครื่องนุ่งห่ม
ที่จังหวัดนครพนม สภาพอากาศยังคงหนาวเย็นต่อเนื่อง หลังอุณหภูมิลดลงอีก 2 – 3 องศาเซลเซียส ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ ประสบปัญหาภัยหนาว โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอชายแดน ติดกับแม่น้ำโขง ขณะเดียวกันกับส่งผลดีต่อธุรกิจจำหน่าย เครื่องนุ่งห่มกันหนาว รวมถึงเสื้อผ้ากันหนาวมือสอง ตามตลาดชายแดน กลับมาคึกคักอีกครั้ง มีประชาชน ทั้งชาวไทย ชาวลาว เดินทางไปเลือกซื้อผ้าห่มกันหนาว เสื้อผ้ากันหนาว มาใช้ในครัวเรือน ทำให้ช่วงนี้มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 10 -20 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังพบว่า ส่งผลดีต่อชาวบ้าน ในพื้นที่ อำเภอเรณูนคร ที่ยึดอาชีพทอหมวกไหมพรมแฟนซี รวมถึงเสื้อกันหนาวไหมพรมที่มีสีสัน สวยงาม มีออเดอร์สั่งซื้อ จำนวนมาก สามารถขายได้วันละหลายหมื่นบาท
ขณะที่จังหวัดบึงกาฬ สภาพอากาศที่หนาวเย็นกลับมาอีกครั้ง ทำให้ครูโรงเรียนอนุบาลบึงกาฬวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ ต้องนำเด็กนักเรียนทุกระดับชั้น กว่า 1,000 คน ออกมาเรียนนอกห้องเรียน จัดกิจกรรมคลายหนาว และทำการเรียนการสอนที่กลางสนามฟุตบอลรับไออุ่นจากแสงแดด ทั้งนี้ โดยเช้าวันนี้พื้นที่จังหวัดบึงกาฬ มีอุณหภูมิอยู่ที่ 14 องศา ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่าในช่วงวันที่ 4-7 กุมภาพันธ์ ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะลดลงได้อีก 4-6 องศเซลเซียส และมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่องกับมีลมแรง
ส่วนเช้าวันนี้ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มีหมอกที่ลงอย่างหนาทึบบนถนนเส้นทางตลอด แนวชายแดนไทย-เมียนมา ส่งผลกระทบทำให้ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนในหลายเส้นทาง เป็นไปด้วยความยากลำบาก คนขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ต้องเปิดไฟหน้ารถเพื่อให้สัญญาณบนถนน เนื่องจากทัศนวิสัยในการมองเห็นบนถนนลดน้อยลง
ขณะที่เด็กนักเรียนผู้ยากไร้บนยอดดอย ที่มาเรียนหนังสือในช่วงเช้าวันนี้ ต้องประสบกับอากาศหนาวเย็น ครูเวรต้องพานักเรียนมา นั่งล้อมวงล้อมกองไฟเพื่อคลายความหนาวเย็น ซึ่งก็พอช่วยบรรเทาความหนาวเย็นไปได้บางส่วน ขณะที่นักเรียนอีกหลายคน ที่ไม่มีเสื้อกันหนาวมาโรงเรียน ครูต้องใช้วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการนำนักเรียนมาออกกำลังกายกลางแดดอ่อนๆในช่วงเวลาเช้า ทั้งนี้เพื่อช่วยให้ร่างกายเกิดความอบอุ่น และช่วยทำให้สุขภาพร่างกายของนักเรียนแข็งแรง สามารถต่อสู้กับโรคไข้หวัดได้อย่างดี.-สำนักข่าวไทย