สตง.เน้นสอบความคุ้มค่ากรณี พล.อ.ประวิตร เช่าเหมาลำไปประชุม ที่ ฮาวาย

pisit leelawatcharopasกรุงเทพฯ 7 ต.ค.-   ผู้ว่าฯ สตง. เผย กรณี พล.อ.ประวิตร เช่าเหมาลำเครื่องบินไปประชุม ที่ ฮาวาย สตง.จะเน้นสอบความคุ้มค่าของค่าใช้จ่าย ปัดตอบขนเจ้าหน้าที่กว่า 30 คน เหมาะสมหรือไม่  


นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวถึงการตรวจสอบกรณีเช่าเหมาลำเครื่องบินไปประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียน – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา ที่ มลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ว่า สตง.จะเน้นไปในเรื่องความคุ้มค่าของค่าใช้จ่าย ที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประเมินราคากลางไว้ถึง 20 กว่าล้านบาท

“จะเอารายละเอียดทั้งหมดมาพิจารณาว่า  การบินไทยมีกระบวนการเรียกเก็บค่าน้ำมัน ค่าเช่าเครื่องบิน ค่าอาหาร อย่างไร มีความยุติธรรมหรือไม่  ต้องวิเคราะห์ต้นทุน เช่น หากคณะเดินทางไปเอง จะแพงหรือถูกกว่า  คณะสามารถไปล่วงหน้า หรือ ทยอยไป หรือไปรวดเดียวจบ  อะไรถึงจะเป็นประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด หลังจากได้ตัวเลขของการจ่ายจริง ผมก็จะแถลงข่าวต่อสื่ออีกครั้ง” นายพิศิษฐ์ กล่าว  และว่า เมื่อ สตง.ทยอยให้ข้อเท็จจริง สังคมและสื่อฯ ก็คงจะพอสรุปได้ส่วนหนึ่ง


ส่วนของรายชื่อที่ร่วมคณะ นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (6 ต.ค.) มีการเปิดเผยไปแล้วว่า มีแต่บุคลากรที่มีชั้นยศ และมีตำแหน่งที่เกี่ยวกับความมั่นคง

“ในส่วนรายชื่อของเจ้าหน้าที่ความมั่นคง เราไม่ควรจะพูด  คนที่ทำงานความมั่นคง ก็ไม่อยากจะเปิดตัว  แต่ถามผมว่ามีชื่อผู้หญิงที่เป็นข่าวไหม ก็ได้รับการยืนยันว่าไม่มี คนนั้นเขาก็บอกแล้วว่า ไม่ได้ไป ถ้าถามว่ามีคนของบริษัทพีพีไปด้วยหรือไม่ ผมดูแล้วก็ไม่มี มีแต่ที่ปรึกษารัฐมนตรี” นายพิศิษฐ์ กล่าว

นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า การเดินทางไปประชุมครั้งนี้ ของ พล.อ.ประวิตร มีวัตถุประสงค์เพื่อไปประชุมองค์คณะรวมกับประชุมคู่เจรจา เวลาประชุมกับคู่เจรจา รัฐมนตรีจะไปเดินพูดทั้ง 10 ห้องคงไม่ได้ ต้องส่งเจ้าหน้าที่ไป มี 30 คน แบ่งเป็น 10 เรื่อง  เรื่องละ 3 คน  ส่วนจะเหมาะสมหรือไม่  ไม่ขอให้ความเห็น  แต่ว่าวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งก็คือ การประชุมร่วมกับประเทศคู่เจรจา อย่างน้อย 10 ประเทศ จึงต้องเตรียมคลังความรู้ เครื่องมือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคไปด้วย       .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนืออากาศหนาว-ใต้ตอนล่างฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือมีอากาศหนาว ส่วนภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้ง กทม-ปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นถึงหนาว ภาคใต้ตอนล่าง มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

คนร้ายลอบวางระเบิด 2 พ่อลูก ครู ตชด. เสียชีวิต

คนร้ายลอบวางระเบิด ถนนศรีสาคร-จะแนะ จ.นราธิวาส รถกระบะของครูใหญ่โรงเรียน ตชด. และลูกชาย ขับผ่านมา พลิกคว่ำหลายตลบ ก่อนบุกมาจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง หวังสร้างสถานการณ์ความปั่นป่วนในพื้นที่

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย ด้าน “ธีรรัตน์” ต้อนรับกลับบ้านเก่า มองเป็นเรื่องน่ายินดีช่วยทำงานให้สำเร็จ ขณะที่ สก.ปชป.-ไทยสร้างไทย มาด้วย

นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 16 ม.ค.นี้

“แพทองธาร” นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 16 ม.ค.นี้ ติดตามโครงการพัฒนาพื้นที่ พบนักเรียน ประชาชน ร่วมมหกรรมแก้หนี้, พูดคุยผู้นำศาสนา-ผู้ประกอบการประมง-เร่งโครงการก่อสร้างสะพาน, ขุดลอกคลอง, โครงการเงินกู้ซอฟต์โลน