ไม่รอด!จับได้แล้วโจรจี้ชิงเงิน ธ.กรุงไทย อึ้งเป็นถึง ผอ.กอง

ฉะเชิงเทรา 3 ก.พ.-ตำรวจบางปะกงนำตัวผู้ต้องหาจี้ชิงเงินธนาคารกรุงไทยกว่าครึ่งล้านบาท ซึ่งเป็นข้าราชการระดับผู้อำนวยการกอง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ อ้างต้องการเงินไปใช้หนี้พนัน แกล้งทำขาเป๋เพื่อหลอกเจ้าหน้าที่

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้(3 ก.พ.)ที่ สภ.บางปะกง พล.ต.อ.เฉลิมเกีรยติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิตติ  รอดบางยาง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธีรพล  จินดาหลวง  ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.กิตติพัฒน์ พงษ์พนัส  ผกก.สภ.บางปะกง ได้นำตัวนายรุ่งโรจน์ หรือเก่ง บุญประกอบ อายุ 48 ปี ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลบางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ธนาคารกรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัส บางวัว เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อสไตเออร์ ขนาด 9 มม. 1 กระบอก เสื้อผ้า หมวกกันน็อค และอุปกรณ์อำพรางกาย รวมทั้งรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า PCX สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กฌ 835 ฉะเชิงเทรา และสก๊อตเทปพันสายไฟสีดำที่คนร้ายใช้ติดรอบรถ เพื่ออำพรางในการหลบหนี

จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ธนาคารกรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัส บางวัว ที่ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนจี้พนักงานที่เคาน์เตอร์ ก่อนกระโดดข้ามไปกวาดเงินในลิ้นชักเคาน์เตอร์ได้เงินสดไปทั้งสิ้น 593,890 บาท ก่อนวิ่งไปขึ้นรถจักรยายนต์ที่จอดไว้ด้านนอกขับหลบหนีไป 

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ตำรวจภูธรบางปะกงและชุดสืบสวนภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้สืบสวนหาข่าว และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่คาดว่าเป็นเส้นทางที่ผู้ต้องหาใช้ในการหลบหนี จนพบว่ากล้องวงจรปิดบริเวณหน้าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่งสามารถจับภาพรถผู้ต้องสงสัยขับขี่ผ่าน และเข้าไปภายในหมู่บ้านสุขุมวิท 1 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจึงสนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านทั้งหมด จำนวน 270 หลังคาเรือน พบรถจักรยานยนต์ที่บ้านผู้ต้องหา มีคราบลักษณะคล้ายเพิ่งลอกสติ๊กเกอร์ออกรอบคัน จึงได้นำตัวผู้ต้องหามาสอบสวน จนผู้ต้องหายอมรับสารภาพ

ด้านนายรุ่งโรจน์ บุญประกอบ ผู้ต้องหา ให้การว่า ตนเองไม่ได้ขาเป๋ แต่ที่เดินขาเป๋นั้น เพื่อเบี่ยงเบนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุนั้น เพราะต้องการนำเงินไปใช้หนี้สินจากการพนัน หลังจากทำการจี้ธนาคารมาแล้ว ได้ขับรถจักรยานยนต์กลับมาบ้านพัก แกะเทปพันสายไฟที่แปะไว้รอบรถออก และนำเงินที่ได้มาใส่ถุงดำ ซุกซ่อนไว้ใต้อ่างล้างจานภายในห้องครัว ก่อนที่ช่วงเย็นของวันเดียวกันจะนำเงินที่ได้มา ไปใช้หนี้ให้กับเจ้าหนี้ทั้งหมด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม โดยมีและใช้อาวุธ และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรและไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนขยายผลถึงเจ้าหนี้ที่ผู้ต้องหานำเงินไปใช้หนี้พนัน และสอบสวนถึงความเชื่อมโยงในคดีจี้ชิงทรัพย์ธนาคารทหารไทยถึง 2 ครั้ง เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เพราะมีลักษณะและพฤติกรรมในการจี้ชิงทรัพย์คล้ายกัน.-สำนักข่าวไทย