กรมชลประทานระบุแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น ด้านเขื่อนป่าสักฯระบายน้ำต่อเนื่อง

กรมชลประทาน 7 ต.ค.-กรมชลประทานยอมรับฝนที่ตกหนักทางตอนบน ทำให้มีน้ำท่าจำนวนมากไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาสูงขึ้นอีกในระยะนี้ ด้านเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ยังคงระบายน้ำออกจากเขื่อนอย่างต่อเนื่อง รองรับน้ำฝนรอบใหม่


นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาว่า  ฝนที่ตกหนักในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร อุทัยธานี และนครสวรรค์ ในช่วง 2 – 3 วันที่ผ่านมา ทำให้มีน้ำท่าไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์มากขึ้น เมื่อรวมกับปริมาณน้ำจำนวนมากจากแม่น้ำสะแกกรังที่ไหลลงมาสมทบ จะทำให้ปริมาณน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น กรมชลประทาน ได้ใช้ระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา รับน้ำเข้าไปตามศักยภาพที่รับได้ พร้อมกับควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อน 1,998 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 50-70 เซนติเมตร

ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์นั้น รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า เนื่องจากบริเวณเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนฯอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างมาก ณ วันนี้( 7 ต.ค.) มีปริมาณน้ำในเขื่อนทั้งหมด 881 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 92 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกเพียง 79 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น วันนี้ (7 ต.ค.)  มีน้ำไหลเข้าเขื่อนฯประมาณ 63 ล้านลูกบาศก์เมตร หากไม่มีการปรับเพิ่มการระบายน้ำออกให้สมดุลกับปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนฯ จะทำให้น้ำเต็มเขื่อนและเกินความจุของเขื่อนได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้จะส่งผลให้การระบายน้ำจากออกจากเขื่อนต้องเพิ่มขึ้นอย่างมาก อาจจะส่งผลกระทบกับพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนเป็นบริเวณกว้างได้ กรมชลประทาน จึงต้องปรับการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จากเดิมที่ระบายออกวันละ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร  เป็นอัตราในช่วงวันละ 47.50 – 50 ล้านลูกบาศก์เมตร  เพื่อควบคุมไม่ให้น้ำเต็มเขื่อนก่อนจะสิ้นสุดฤดูฝน ในด้านของเขื่อนพระรามหก ยังคงควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านไม่เกิน 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีตามเดิมปัจจุบัน (7 ต.ค.) มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อน 595 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งไม่กระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนแต่อย่างใด สำหรับปริมาณน้ำที่ระบายเพิ่มจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ นั้น กรมชลประทาน จะใช้พื้นที่ว่างบริเวณเหนือเขื่อนพระรามหก ชะลอน้ำส่วนหนึ่งไว้ น้ำอีกส่วนหนึ่งที่เหลือจะใช้ระบบชลประทานฝั่งตะวันออกตอนล่าง รับน้ำผ่านคลองระพีพัฒน์  จากนั้นจะเร่งระบายน้ำส่วนนี้ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำนครนายก แม่น้ำบางปะกง และคลองชายทะเลต่อไป


ทั้งนี้ กรมชลประทานได้ทำหนังสือแจ้งไปยังจังหวัดลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อประกาศแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด  และอย่างไรก็ตาม หากมีฝนตกหนักลงมาเพิ่มเติม จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหกมากกว่าเกณฑ์ดังกล่าว กรมชลประทาน จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะๆ ต่อไป-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ถกปราบบุหรี่ไฟฟ้า

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ประชุมปราบปราม “บุหรี่ไฟฟ้า” ขีดเส้น 30 วัน ดำเนินการให้เด็ดขาด สั่งเข้มห้ามขายใกล้สถานศึกษา ต้องจัดการผู้นำเข้า

รถบัสดูงานคว่ำ

เร่งหาสาเหตุรถบัสคณะดูงานบึงกาฬ พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน

เจ้าหน้าที่เร่งกู้ซากรถบัสคณะดูงานเทศบาลบึงกาฬ เสียหลักพลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก พร้อมเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุ หลังมีรายงานว่าตอนลงเขารถบัสใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม.

ดราม่ายิว

“มท.1” ลงพื้นที่โบสถ์ชาบัด ด้านผู้นำศาสนายูดาห์ ลั่นไม่เคยคิดยึดปาย

“มท.1” ลงพื้นที่โบสถ์ชาบัด เมืองปาย หลังมีกระแสข่าวชาวอิสราเอลตั้งถิ่นฐาน-ก่อความวุ่นวาย ด้านผู้นำศาสนายูดาห์ ลั่นประเทศไทยเป็นของคนไทย ไม่เคยคิดยึดปาย รับเสียใจคนเข้าใจผิด ทั้งที่คนอิสราเอลชอบประเทศไทยและคนไทย

รถบัสคว่ำ

รถบัสดูงานจากบึงกาฬ พลิกคว่ำดับ 18 – คนขับอ้างไม่ชินทาง

รถบัสทัศนศึกษาดูงานจากบึงกาฬ พลิกคว่ำทางลง “เขาศาลปู่โทน” ปราจีนฯ เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บกว่า 30 คน เบื้องต้นคนขับอ้างไม่ชินทาง