สุราษฎร์ธานี 26 ม.ค.- ยายวัย 85 ปีสุดทน ร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ หลังถูกตำรวจยศร้อยตำรวจโทเข้าฮุบที่ดินกว่า 30 ไร่ไปเป็นของตนเอง ทั้งๆที่เคยมีบุญคุณแบ่งที่ดินให้ปลูกผักและหารายได้เสริม
นางบุญพา มีเดช อายุ 85 ปี ชาวตำบลประสงค์ อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯ, ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 45 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อขอความเป็นธรรมและการคุ้มครองความปลอดภัย หลังอ้างว่ามีตำรวจยศร้อยตำรวจโท สังกัด สภ.ท่าชนะ ใช้อำนาจหน้าที่และอาวุธข่มขู่เอาชีวิต บุกยึดสวนยาง 33 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินของนางบุญพา มูลค่าประมาณ 4,700,000 บาท อีกทั้งนางบุญพา ต้องถูกคนร้าย 3 คนเข้าปล้นบ้านและทำร้ายร่างกาย ได้เงินสด 750,000 บาท และสร้อยคอทองคำหนัก 6 บาท จึงวอนให้ผู้ใหญ่ในจังหวัดฯ ช่วยเหลือ นำนายตำรวจพร้อมครอบครัว ออกจากพื้นที่สวนของตนเอง และขอให้ย้ายนายตำรวจออกนอกพื้นที่
ด้านพล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี บอกว่า ได้สั่งให้ผู้กำกับการ สภ.ท่าชนะ เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง กำหนดกรอบเวลาตรวจสอบ 15 วัน หากมีมูลจะต้องดำเนินการทั้งวินัยและอาญา
นางบุญพา เล่าว่า เมื่อประมาณปี 2553 ตำรวจนายนี้ ได้เข้ามาตีสนิทและขอยืมเงินหลายครั้ง จากนั้นปี 2557 ได้เข้ามาขอใช้พื้นที่ปลูกผัก จึงอนุญาต แต่ทว่าได้มีการขยับพื้นที่ปลูกผักในร่องต้นปาล์มน้ำมัน และอาสาเข้าไปดูแลทุเรียน โดยขอส่วนแบ่งจากการขาย
กระทั่งปี 2560 ตำรวจนายนี้ได้พาคนงานเข้ามาตัดโค่นต้นปาล์มทิ้ง อ้างว่าจะปลูกมะนาว แต่ตนเองไม่ยินยอม จึงมีปากเสียง จนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ตำรวจและครอบครัว ได้เข้าไปยึดครองที่ดินและอ้างเป็นของตนเองทันที และมีปัญหาเรื่อยมา จนตนเองถูกปล้นชิงทรัพย์ จึงต้องร้องเรียนให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพราะปัจจุบันอยู่อาศัยด้วยความหวาดระแวง.-สำนักข่าวไทย





