คมนาคมลงเสาเอกศูนย์ขนส่งสินค้าเชียงของ

เชียงราย  18 ม.ค. – กรมการขนส่งทางบกเปิดตัวโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย วงเงินกว่า 1,000 ล้านบาท


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย พร้อมประกอบพิธีบวงสรวงการก่อสร้างและยกเสาเอกอาคารสำนักงานกลางโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย สำหรับโครงการดังกล่าวจะเป็นประตูการค้าในแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor) เชื่อมอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง บนพื้นที่ก่อสร้างโครงการกว่า 336 ไร่ โดยจะก่อสร้างเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการระยะที่ 1 ปี 2563 

นายอาคม กล่าวว่า ตามนโยบายจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาล กรมการขนส่งทางบกได้พัฒนาศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย เพื่ออำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าชายแดนเชื่อมไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)-สาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 และถนนสาย R3A ยกระดับมาตรฐานการขนส่งสินค้า รองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจอาเซียน การเติบโตของสาธารณรัฐประชาชนจีนฝั่งตะวันตก ซึ่งไม่มีทางออกสู่ทะเล รวมถึงรองรับการเปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้า จากถนนสู่ระบบราง ตามแผนการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ซึ่งจะทำให้อำเภอเชียงของกลายเป็นเมืองหลักด้านโลจิสติกส์ Logistic Hub เป็นอีกหัวใจสำคัญในการแปลงโฉมจังหวัดเชียงรายให้เป็นโลจิสติกส์ซิตี้ของภูมิภาค พัฒนาให้เป็นประตูการค้าในแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ 


เส้นทางสาย R3A นับเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งที่มีบทบาทความสำคัญต่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้โครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ซึ่งเส้นทางดังกล่าวเริ่มต้นที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 เข้าสู่บ้านห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ฝั่งสปป.ลาว ผ่านแขวงหลวงน้ำทา ก่อนจะเข้าสู่สาธารณรัฐประชาชนจีนที่ชายแดนบ่อเต็น-บ่อหาน และตรงสู่เมืองเชียงรุ้ง และคุนหมิง รวมระยะทางประมาณ 1,100 กิโลเมตร โดยปัจจุบันมีสินค้าหลายประเภท ทั้งสินค้าจำพวกผักและผลไม้สด สินค้าอุปโภค-บริโภค เครื่องจักร และวัสดุก่อสร้าง ถูกขนส่งผ่านเส้นทางดังกล่าว ซึ่งมูลค่าการค้าผ่านด่านเชียงมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีมูลค่าการนำเข้า-ส่งออกผ่านด่านกว่าปีละ 20,000 ล้านบาท

กระทรวงคมนาคมเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาประตูการค้าที่รองรับการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทย สปป.ลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีนฝั่งตะวันตก จึงได้ริเริ่มโครงการพัฒนาศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย บริเวณประชิดด่านพรมแดนเชียงของ ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย บนเนื้อที่กว่า 336 ไร่ เงินลงทุนกว่า 1,360 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยจะเป็นที่ทำการของหน่วยงาน CIQ คือ Custom (พิธีการศุลกากร) Immigration (การตรวจคนเข้าเมือง) และ Quarantine (การตรวจและกักกันพืชและสัตว์) ทำให้ผู้ประกอบการที่ขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนไปมา สามารถเข้าไปใช้บริการที่ศูนย์ฯ เชียงของ เพียงแห่งเดียว เป็นจุดบริการแบบ One Stop Service รวมถึงรองรับการพัฒนาเป็นพื้นที่ควบคุมร่วมกัน (CCA) ซึ่งเจ้าหน้าที่ไทยและสปป.ลาว สามารถตรวจปล่อยสินค้าร่วมกันได้ ณ จุดเดียว ช่วยลดขั้นตอนในการทำงาน และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการในอนาคตอีกด้วย

สำหรับการให้บริการของศูนย์ฯ เชียงของ แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 จะเน้นการให้บริการเปลี่ยนหัวลาก-หางพ่วง ระหว่างรถบรรทุกไทยกับรถบรรทุกต่างประเทศ มีการให้บริการอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ปลั๊กเสียบตู้แช่เย็น (Reefer) และอุปกรณ์ยกตู้คอนเทนเนอร์ (Reach Stacker) นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่คลังสินค้าศุลกากร คลังสินค้าทัณฑ์บน และอาคารสำหรับบรรจุสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ (CFS) รองรับให้บริการ ซึ่งจะสามารถรองรับปริมาณสินค้าได้กว่า 270,000 ทีอียู โดยจะก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการในระยะแรกในปี พ.ศ. 2563 สำหรับระยะที่ 2 ศูนย์ฯ เชียงของ จะรองรับการเปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสู่ระบบราง พร้อมพัฒนาพื้นที่Container Yard สำหรับการวางตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการในระยะที่ 2 ได้ในปี พ.ศ. 2566 สอดคล้องกับแผนการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย 


กระทรวงคมนาคม คาดการณ์ว่าโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงรายนี้จะสามารถช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ ส่งผลให้จังหวัดชายแดนกลายเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อ (Hub) การขนส่งสินค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ อีกทั้งช่วยอำนวยประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบโลจิสติกส์เชิงบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพของประเทศในระยะยาวอย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนฝนฟ้าคะนอง ตกหนักบางแห่ง

กทม. 18 พ.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ อีสาน ตะวันออก และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และอ่าวไทย ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ […]

ระทึก! ตำรวจไล่ล่า-ยิงยางสกัดกระบะซิ่ง พบไอซ์ซุกในรถ

17 พ.ค. – ระทึก! ตำรวจสายตรวจขี่รถจักรยานยนต์ไล่ล่ากระบะซิ่งหนีชนดะ ต้องยิงยางสกัดจึงสิ้นฤทธิ์ ตรวจค้นพบไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถ เพจเฟสบุ๊กชื่อ วัชรพล สายไหม เพิ่มสิน สุขาภิบาล 5 โพสต์ข้อความระบุว่า “เลี่ยงทางถนนเทพารักษ์ วัชรพล” พร้อมกับคลิปเหตุการณ์ที่มีรถกระบะแต่งซิ่งคันหนึ่งขับเร่งเครื่องจนควันดำเต็มถนน เหมือนพยายามหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในคลิปจะเห็นว่าด้านหน้ารถกระบะคันดังกล่าวมีรถกระบะจอดขวางทางอยู่ 1 คัน และด้านซ้ายของคลิปจะเห็นรถจักรยานยนต์ตำรวจสายตรวจล้มอยู่ อีกทั้งยังได้ยิงเสียงปืน และในจังหวะที่รถกระบะกำลังถอยเพื่อกลับลำหนี มีรถกระบะคันหนึ่งวิ่งเข้ามาชนท้ายอย่างจัง เพื่อปิดทางหนีของรถกระบะคันดังกล่าว และในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุบกระจกรถกระบะ พร้อมนำตัวผู้ก่อเหตุออกมาจากรถได้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถกระบะอีซูซุโหลดเตี้ยแต่งซิ่ง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มีรอยเฉี่ยวชนรอบคัน ล้อด้านซ้ายแตกทั้งล้อหน้า ล้อหลัง และยางล้อหน้าด้านซ้ายมีเศษหัวกระสุนติดอยู่ ส่วนคนขับรถกระบะทราบชื่อคือ นายชัยชนะ อายุ 41 ปี ถูกจับกุมพร้อมของกลางไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถกระบะ ด้านพลเมืองที่ช่วยตำรวจสกัดคนร้ายไม่ให้หลบหนี คือนายประหยัด เจ้าของรถกระบะวีโก้สีดำ ได้รับความเสียหายบริเวณตัวรถด้านซ้ายจนถึงท้ายรถ ซึ่งจอดขวางหน้ารถกระบะคันก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะตนเองขับรถอยู่ในซอยพหลโยธิน 50 เห็นรถสายตรวจจักรยานยนต์ขี่ไล่รถกระบะคันเกิดเหตุมาจนมาถึงซอยเทพรักษ์ 23 รถคนร้ายเฉี่ยวชนรถของตนเองเลยขับตามมา ตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาไล่จับอะไรกัน แต่ได้ยินสายตรวจบอกให้ช่วยไล่ จึงช่วยเพราะก็ถูกชนแล้วหนีเหมือนกัน จนมาช่วยสกัดได้ตรงนี้ […]

ตัดทุเรียนโชว์

นายกฯ ลงพื้นที่เมืองจันท์ ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง

จันทบุรี 17 พ.ค.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.จันทบุรี ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง ไม่ได้มาตรฐาน ขอช่วยแก้ลดเวลาสินค้าตกค้าง-แก้ปมแรงงาน ด้าน สส.ประชาชน เสนอปัญหา ด้านนายกฯ ลั่นรัฐบาลเร่งอำนวยความสะดวกเอกสารส่งออก-ลดเวลาตรวจหน้าด่าน น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางสาวจิราพร​ สินธุไพร​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์​ นายอิทธิ​ ศิริลัทยากร และนายอัครา​ พรหมเผ่า​ รัฐมนตรีช่วย​ว่าการ​กระทรวง​เกษตรและสหกรณ์​ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิตและผลผลิต จากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ณ สวนรักตะวัน ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังเข้าร่วมชมการไลฟ์ขายทุเรียนของเกษตรกรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer นอกจากนี้ยังมี สส.ในพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ซึ่งเป็น สส. จากพรรคประชาชน เดินทางมารอนายกรัฐมนตรี เพื่อจะร่วมสะท้อนปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่ให้กับนายกรัฐมนตรี โดยมีนางสาวญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี […]

“ชี้จุด-ทำแผน” ฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพหมกสวนปาล์ม

ตรัง 17 พ.ค.- คุมตัว 4 ผู้ต้องหาคดีฆ่าเผานั่งยาง ชี้จุดเกิดเหตุพร้อมทำแผนฯ ที่สวนปาล์มน้ำมัน หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันตามรวบยกทีม เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันสามารถรวบผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ครบทั้ง 4 คนในคดีฆ่าฝังและเผานั่งยาง รวม 4 ศพ ล่าสุดช่วงเช้าของวันนี้ เจ้าหน้าที่คุมตัวทั้งหมดไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนฯ ที่สวนปลามน้ำมัน ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนถูกควบคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณสวนปาล์มน้ำมัน บนเนื้อที่ 170 ไร่ ในตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ประกอบด้วย นายศุภกรณ์ หรือบิน หัวหน้าแก๊ง นายจรณชัย หรือแต้ม นายปิยะศักดิ์ หรือแจ๊ค และนายรพีพันธ์ หรือเถือก ทั้งหมดถูกตั้งหลายข้อหา อาทิ “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายฯ, ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฯลฯ”โดย มี พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ […]