ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบฯ 18 ม.ค.-สหภาพ กฟผ. เสนอนายกฯ ไม่ให้ลดบทบาทภารกิจดูแลไฟฟ้าของประเทศ ด้านเครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านการทุจริตและคอรัปชั่น ยื่นหนังสือ ให้ตรวจสอบการทุจริต 5 โครงการจ้างในบริษัทท่าอากาศยาน แข่งขันประกวดราคาถูกต้องตามระเบียบหรือไม่
นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านตัวแทนศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล ฝั่ง กพ. เพื่อให้นายกรัฐมนตรี พิจารณา การปฎิรูปพลังงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ และประชาชน โดยเห็นว่า กระบวนจัดรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำไปจัดทำร่างแผนปฎิรูปประเทศด้านพลังงาน เพื่อเสนอต่อที่ประชุมร่วมคณะกรรมการการปฎิรูปประเทศภายในเดือนธันวาคม 2560 ก่อนนำส่งให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ พิจารณาประมาณเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม 2561.และ นำ เสนอ ครม. พิจารณาต่อไปนั้น
ประธานสหภาพฯ กฟผ. กล่าวว่า สหภาพแรงงานฯ มีความกังวลต่อการลดบาทบาท ภารกิจดูแลระบบไฟฟ้าของประเทศ เนื่องจาก สาระสำคัญในร่าง ปฎิรูปพลังงาน ระบุว่า การบริหารจัดการพลังงาน จะมีการปรับปรุงกลไกลโครงสร้างตลาดและราคาพลังงาน เพื่อส่งเสริมการค้าเสรี ซึ่งทั้งสองส่วนนี้ ทางสหภาพแรงงาน ฯ เห็นว่า คือการมุ่งเน้นแยกกิจการสายส่งและศูนย์ควบคุมระบบโครงข่ายไฟฟ้า ออกจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ภารกิจนี้ กฟผ. ดำเนินการมาด้วยความเรียบร้อย ไม่เกิดความเสียหาย ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ โดยให้ กฟผ. ทำหน้าที่ด้านนี้ ต่อไป เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ และประชาชน
นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอรัปชั่น นำโดยนายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาล ยืนหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านเจ้าหน้าที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อให้ตรวจสอบโครงการทุจริต บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน หรือ AOT ประกอบด้วย โครงการจ้างปรับปรุงสะพานเทียบเครื่องบิน อาคารเทียบเครื่องบิน จำนวน 33 ชุด ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง งบประมาณ 409 ล้านบาท 2.โครงการ จัดจ้างผู้ให้บริการรถเข็นกระเป๋าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ งบประมาณ 886 ล้านบาท
3. โครงการให้สิทธิประกอบกิจการโครงการบริหารจัดอาคารจอดรถ ท่าอากาศยานดอนเมือง 4.โครงการเช่าเครื่องตรวจวัตถุตามร่างกายผู้โยสาร ทั้งหมด งบประมาณ 1,350 ล้านบาท และ 5 โครงการติดตั้งระบบสายพานลำเลี้ยงกระเป๋า EHS และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด EDS ในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 งบประมาณ 3,700 ล้านบาท ทั้ง 5 โครงการ ได้ทำถูกต้องตามระเบียบการแข่งขันราคาหรือไม่ .-สำนักข่าวไทย

