กลุ่ม ปตท.เดินหน้าเตรียมขยายลงทุน พร้อมร่วมมือ กฟผ. สร้างความมั่นคงแก่ประเทศ

กรุงเทพฯ 18 ม.ค. – กลุ่ม ปตท.เดินหน้าเตรียมขยายลงทุนทั้งในและต่างประเทศ พร้อมร่วมมือกับ กฟผ. สร้างความมั่นคงแก่ประเทศ ชี้เงินบาทแข็งไม่กระทบ เพราะการค้าขายส่วนใหญ่เป็นดอลลาร์ฯ


ในงานผู้บริหารพบสื่อมวลชนของกลุ่ม ปตท. ประจำปี 2561 ซึ่งมีทั้ง ปตท. บมจ.ไออาร์พีซี, บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.), บมจ.จีพีเอสซี, บมจ.ไทยออยล์ และ บมจ.พีทีทีโกลบอลเคมิคอล (พีทีทีจีซี ) ทุกรายพร้อมเดินหน้าตามแผน PTT 3D ต่อเนื่อง โดยในส่วนแผนปรับปรุงประสิทธิภาพโดยในส่วนของ ปตท.ปี 2560 ช่วยเพิ่มกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีหรืออีบิทเฉพาะ ปตท.ได้ถึงเกือบ 3,000 ล้านบาท และเร่งตัดสินใจการลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว เช่น ไออาร์พีซี มีโครงการใหม่ คือ MARSเป็นการผลิตผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ รวม 1.3 ล้านตัน/ปี ได้แก่ สารพาราไซลีน 1 ล้านตัน/ปี และเบนซีน 300,000 ตัน/ปี มูลค่าลงทุน 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะศึกษาการลงทุนชัดเจนปีนี้หากตัดสินใจชัดเจนโรงงานจะสร้างเสร็จอีก 5 ปีข้างหน้า เช่นเดียวกับไทยออยล์ พีทีทีจีซี จะขยายการลงทุนสนองตอบต่อโครงการระเบียงเศรษฐกิจหรืออีอีซีของรัฐบาล และทุกรายต่างหาช่องทางขยายงานในต่างประเทศ


นายเทวินทร์ วงศ์วานิช  ซีอีโอ ปตท. กล่าวถึงราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ขณะนี้ใกล้เคียง 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ว่า คงเป็นสถานการณ์ชั่วคราวและจากสหรัฐที่พร้อมเพิ่มกำลังผลิต ทาง ปตท.จึงยังไม่เปลี่ยนคาดการณ์เฉลี่ยราคาน้ำมันดิบดูไบปีนี้ที่ 55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และ ปตท.ยังพร้อมร่วมลงทุนกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทั้งการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) มาป้อนโรงไฟฟ้าในไทย หรือร่วมทุนสร้างโรงไฟฟ้าในประเทศเพื่อนบ้าน 

“เงินบาทแข็งค่า กลุ่ม ปตท.ไม่ค่อยได้รับผลกระทบ เพราะการค้าขายเป็นดอลลาร์ราคาขึ้นลงตามน้ำมันถือว่าเป็นการประกันความเสี่ยงทางธรรมชาติ (Natural Hedge)” ซีอีโอ ปตท. กล่าว

นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เปิดเผยว่า ปริมาณขายปิโตรเลียมและต้นทุนการผลิตปี 2561 คาดจะใกล้เคียงปี 2560 อยู่ที่ประมาณ 300,000 บาร์เรล/วัน และต้นทุนต่อหน่วย (unit cost) อยู่ที่ 29-30 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล  ดังนั้น หากราคาน้ำมันสูงมากขึ้นก็เป็นผลดีต่อรายได้ของบริษัท แผนงานในปีนี้จะยังคงมองหาโอกาสการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหลัก ทั้งในไทย เมียนมาร์ มาเลเซีย และอาจจะขยายไปยังตะวันออกลางที่มองว่ามีอัตราการเติบโตของการผลิตปิโตรเลียมเพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้าประมูลสัมปทานในมาเลเซีย และทำดีลซื้อกิจการ (M&A) ซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติม คาดจะรู้ผลใน 2 เดือนนี้ และให้ความสำคัญกับเรื่องการประมูลแหล่งบงกชและเอราวัณเป็นเรื่องหลัก รวมถึงขยายการลงทุนในแปลงปิโตรเลียมที่มีศักยภาพด้วย 


นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ไออาร์พีซี คาดกำไรสุทธิปี 2560 จะดีกว่าปี 2559 และดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยโครงการ EVEREST เพื่อเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรทุกด้านนั้นสามารถสร้างอีบิทปีนี้ได้ตามเป้าที่ 7,000 ล้านบาท และปีหน้าคาดว่าจะสร้างอีบิทได้ 10,000 ล้านบาท รวมถึงทุกโครงการที่ลงทุนปีนี้เสร็จทั้งหมด ทั้งโครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ (UHV) ของโรงกลั่นและการขยายกำลังการผลิตโพลีโพรพิลีน (PP) อีก 300,000 ตัน/ปี และโรงไฟฟ้าไออาร์พีซี คลีน เพาเวอร์ ขนาด 240 เมกะวัตต์ แล้วเสร็จ ประกอบกับไม่มีแผนหยุดซ่อมบำรุงโรงงาน เชื่อว่าจะผลักดันให้กำไรสุทธิปี 2561 ดีกว่าปีก่อน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโครงการ EVEREST คงจะไม่สามารถผลักดันให้กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (อีบิทด้า) ได้ตามเป้าหมาย 29,000 ล้านบาทในปี 2563 ทำให้บริษัทต้องหาโครงการใหม่ เพื่อได้อีบิทด้าได้ตามเป้าหมาย ด้วยโครงการ GDP ซึ่งแบ่งเป็น 1. Power of Growth ซึ่งจะดำเนินการภายใต้โครงการ MARS โดยเป็นการผลิตผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ รวม 1.3 ล้านตัน/ปี ได้แก่ สารพาราไซลีน 1 ล้านตัน/ปี และเบนซีน 300,000 ตัน/ปี มูลค่าลงทุน 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเร่งศึกษาหากตัดสินใจลงทุนจะใช้เวลา 5 ปีจะก่อสร้างโรงงานเสร็จ  2.Power of Digital ซึ่งเป็นการลงทุนในโครงการ IRPC 4.0 และ 3. Power of People ซึ่งเป็นการสร้างบุคลากรเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

ทั้งนี้ บริษัทตั้งงบลงทุน 5 ปี (ปี 2561-2565) ที่ระดับกว่า 10,000 ล้านบาท โดยยังไม่นับรวมโครงการ MARS และงบการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งบริษัทคาดว่าจะมีกระแสเงินสดในช่วง 5 ปีนี้ประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้มีศักยภาพที่จะมองการลงทุนใหม่ ๆ ด้วยการทำ M&A เป็นครั้งแรก และล่าสุดได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกเข้ามาดูโครงการต่าง ๆ โดยคาดว่าน่าจะเห็นเป้าหมายใน 1 เดือนนี้ 

นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไทยออยล์ คาดว่าผลประกอบการปี 2560 จะอยู่ในระดับที่ดี หลังอัตราการใช้กำลังการกลั่นที่ระดับร้อยละ 112 ขณะที่มาร์จิ้นธุรกิจอยู่ในเกณฑ์ดีและต้นทุนการผลิตที่อยู่ในระดับต่ำตามทิศทางราคาน้ำมันที่ต่ำ ตลอดจนมีโครงการลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพ ส่วนปี 2561-2562 วางแผนจะใช้เงินลงทุนประมาณ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,500 ล้านบาท สำหรับโครงการที่ได้รับอนุมัติแล้วในเรื่องระบบสาธารณูปโภค ส่วนโครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ (Clean fuel Project:CFP) มูลค่าไม่เกิน 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันและเพิ่มกำลังการกลั่นเป็น 400,000 บาร์เรล/วัน จากระดับ 275,000 บาร์เรล/วัน คาดว่าจะตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายในไตรมาส 3/2561

นายเติมชัย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (จีพีเอสซี) กล่าวว่า บริษัทเตรียมงบลงทุนตามแผน 5 ปี (ปี 2561-2565)  ที่ 28,600 ล้านบาท สำหรับการขยายการลงทุนในโครงกการเดิมและโครงการใหม่ ซึ่งการลงทุนภายในประเทศจะเน้นขยายการลงทุนตามกลุ่มบมจ.ปตท.  (พีทีที) รวมถึงการลงทุนระบบกักเก็บพลังงาน (energy stroage) ซึ่งคาดว่าจะสร้างโรงงานในปีนี้และจะเดินเครื่องปี 2562 นอกจากนั้นจะเป็นการลงทุนในต่างประเทศทั้งรูปแบบลงทุนใหม่และซื้อกิจการ ขณะที่ผลประกอบการปี 2560 คาดว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย ส่วนปี 2561คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นหลังจะรับรู้ผลการดำเนินงานของโครงการที่ได้ลงทุนแล้วเสร็จในปีนี้ ซึ่งจะรับรู้รายได้เต็มปีในปี 2561

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์. ซีอีโอพีทีทีจีซี กล่าวว่า งบลงทุน 5 ปี (2561-2565) อยู่ที่ประมาณ 180,000 ล้านบาท โดยยังเดินหน้าแผนลงทุนในประเทศและต่างประเทศต่อเนื่อง โดยโครงการพลาสติกเกรดพิเศษในอีอีซีจะมีการประการร่วมทุนอีก 2 -3 รายในเร็ว ๆ นี้ หลังประกาศไปแล้ว 2-3 ราย และจะขยายตลาดจำหน่วยไปยังกลุ่ม CLMV เพิ่มขึ้น. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

DSI ฝากขัง “สามารถ-แม่” พร้อมคัดค้านประกันตัว

DSI ฝากขัง “สามารถ-แม่” พร้อมคัดค้านประกันตัว ด้านแม่ตะโกนร้องขอความเป็นธรรม ถูกกลั่นแกล้ง แจงเป็นเงินบุญ ปี 64 ขณะที่ “สามารถ” เผย “อยากพูด แต่พูดไม่ได้“

งด ครม.

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” วันศุกร์

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” ศุกร์นี้ นายกฯ ตั้งเป้าปีหน้าน้ำท่วมภาคเหนือต้องไม่เกิดอีก ด้าน ศปช. เตรียมเสนอแผนแก้อย่างเป็นระบบใน ครม.สัญจร ศุกร์นี้