จ.แม่ฮ่องสอน 17 ม.ค.-นายกฯ เยี่ยมชมโครงการพระราชดำริที่ศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปาย เตรียมระดมเจ้าหน้าที่แก้ปัญหายากจน อ้อนประชาชน “อย่าเกลียดผม”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมคณะ เดินทางไปยังลานวัฒนธรรมริมแม่น้ำปาย ศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายตามพระราชดำริฯ เพื่อเยี่ยมชมผลผลิตโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมรับฟังข้อเสนอของชาวแม่ฮ่องสอน 6 กลุ่ม เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ชาวแม่ฮ่องสอน ประกอบด้วยกลุ่มคนอยู่ร่วมกับป่า กลุ่มโครงการสร้างป่าสร้างรายได้ ตามพระราชดำริฯ กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ กลุ่มผลผลิตและผลิตภัณฑ์จากวนเกษตร ทั้งกล้วยไม้ บุก กาแฟ พืชสมุนไพรและถั่ว กลุ่มผู้เลี้ยงไก่แม่ฮ่องสอน กลุ่มผลิตภัณฑ์จากขนแกะ และกลุ่มสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอนในพระบรมราชินูปภัมภ์
นายกรัฐมนตรี พบปะกับประชาชนที่รอต้อนรับและนำผลิตภัณณฑ์ต่าง ๆ มาจัดแสดง กล่าวว่า สมัยครั้งตามเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 กว่า40ปีที่ผ่านมา ได้เห็นการริเริ่มโครงการที่เป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพหลายด้าน ซึ่งรัฐบาลนี้จะสานต่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม โดยมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน รวบรวมละเอียดเสนอเข้ารับการสนับสนุนจากภาครัฐ และมอบให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปดูแล เพื่อให้การช่วยเหลือด้านเทคนิค กระบวนการผลิต และส่งเสริมด้านการตลาด อิเล็กทรอนิคส์ในแต่ละอาชีพ เพื่อเพิ่มรายได้ประชาชน
“วันนี้ยกครม.มาเอง มาเต็มที่ มาเพื่อยืนยันความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาความยากจน ภายใน 2 เดือนนี้จะระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะต้องลงทะเบียนในโครงการเพื่อพัฒนาตนเอง ต่อไปจะไม่ให้อะไรแบบให้เปล่าอีก เรื่องเหล่านี้เป็นหน้าที่ที่รัฐบาลต้องทำ ไม่ใช่นโยบายประชานิยม เพื่อหาเสียง เพราะไม่ได้มาหาเสียง แต่มาหาครอบครัว ขอประชาชนอย่าเกลียดผม” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ขณะที่ประชาชนในพื้นที่กล่าวยืนยันว่ารักนายกรัฐมนตรี และจะเลือกพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แต่กล่าวเพียงว่า ค่อยว่ากันเป็นเรื่องของอนาคต จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางต่อไปยังศาลากลางจังหวัด เพื่อเป็นประธานประชุมยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดแม่ฮ่องสอนร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดผู้นำท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง.-สำนักข่าวไทย
