นายกฯระบุจะทำให้ชาวแม่ฮ่องสอนมีความเป็นอยู่ดีขึ้นใน 5 ปี

จ.แม่ฮ่องสอน 17 ม.ค.-นายกฯ นำคณะลงพื้นที่แม่ฮ่องสอน จังหวัดยากจนอันดับ 1 ของประเทศ ย้ำจะทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ดีขึ้นใน 5 ปี บนศักยภาพด้านการท่องเที่ยว 


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมด้วยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายวิษณุ เครืองาม พล.อ.ฉัตรชัย สาลิกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอคม เติมพิทยาไพศิษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายกอบศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการทุกกระทรวงลงพื้นที่จ.แม่ฮ่องสอน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีอากาศเย็นและหมอกหนา ทำให้นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติและบรรยกาศโดยรอบกับผู้ร่วมคณะ จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังห้องประชุมบุญชู ตรีทอง โรงเรียนห้องสอนศึกษาในพระอุปถัมภ์ ชมการแสดงสุนทรีถิ่นไทยสานสายใยชาติพันธุ์แม่ฮ่องสอน พร้อมรับฟังบรรยายสรุปจากนายสืบศักดิ์ เอี่ยววิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ว่า จ.แม่ฮ่องสอนพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเขาอยู่ในอุทยานแห่งชาติ ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกกรรม มี 7 กลุ่มชาติพันธุ์ เป็นจังหวัดที่มีประชาชนมาลงทะเบียนคนจน 1 ใน 4 ของจังหวัด มีรายได้เฉลี่ยต่อปีอันดับที่ 73 ของประเทศ และมีครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นแบ่งความยากจนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ 

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เป็นสักขีพยานพิธีมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนโครงการจัดสรรที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลแก่ผู้แทน 4 ตำบล จำนวน 8 ราย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวกับประชาชน แสดงความชื่นชมจ.แม่ฮ่องสอนที่มีความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ถือเป็นศักยภาพของพื้นที่ และตนมีความผูกพันกับจังหวัดนี้ตั้งแต่รับราชการยศร้อยโทที่มีโอกาสตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดชและ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 มาทรงงาน รวมทั้งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปณิธานให้สานงานของทั้งสองพระองค์ต่อไป


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การมาจ.แม่ฮ่องสอนครั้งนี้ตั้งใจมาทำให้ประชาชนที่นี่มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ผมเข้าใจปัญหาอุปสรรคในพื้นที่ มาเพื่อแก้ปัญหาความยากจน ไม่ได้มาเพราะหวังเรื่องการเมืองหรือมาสร้างคะแนนความนิยม ไม่ต้องกังวลกับตัวเลขการจัดอันดับ รัฐบาลนี้จะทำให้ที่นี่มีความเจริญตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป เพราะที่นี่มีความสมบูรรณ์ทางธรรมชาติ ต้องใช้โอกาส 3 เดือนของการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวเดินหน้าอย่างเต็มที่ เราจะเร่งรัดให้ทุกกระทรวงเข้ามาทำงาน แม้เส้นทางที่มาจะยากลำบากถึง 1,864 โค้ง แต่ก็ต้องมา โดยจะดูเรื่องเส้นทางคมนาคมให้ดีขึ้น แยกระกว่างการสัญจรไป-มากับการท่องเที่ยว เชื่อว่าตามศักยภาพที่มีอยู่จะทำให้แม่ฮ่องสอนดีขึ้นภายใน 5 ปี การแจกโฉนดที่ดินจะช่วยให้ชาวบ้านมีที่ดินทำกินถูกกฎหมาย ไม่ต้องถูกไล่ที่ แต่ขอว่าอย่าบุกรุกป่าเพิ่มอีก รัฐบาลจะยึดแม่ฮ่องสอนเป็นแม่ฮ่องสอนโมเดล เรื่องการทำให้คนอยุ่กับป่าอย่างเป็นสุข

“สิ่งที่รัฐบาลทำเป็นการเดินหน้าตามนโยบายยุทธศาสตร์ประเทศ ไม่ใช่เรื่องการเมือง และเมื่อมีเลือกตั้งก็หวังว่า การเลือกตั้งจะได้รัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยไทยนิยม ขอให้ทุกคนทำให้ถูก อย่าเลือกผิด  ผมไม่เข้าข้างพรรคใด แต่ขออย่าให้นักการเมืองเอาเรื่องของนโยบายที่เป็นผลประโยชน์มาอ้างเพื่อแลกกับคะแนนเสียง ว่าถ้าเข้ามาได้ก็จะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่ทำ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะไม่ว่าพรรคไหนเป็นรัฐบาล ต้องเดินหน้าทำตามนโยบายรัฐบาลและยุทธศาสตร์ชาติที่กำหนดไว้ ไม่ใช่พัฒนาแต่พื้นที่ของตัวเอง แต่ต้องดูภาพรวมของประเทศ และบริหารจัดการงบประมาณให้เกิดประสิทธภาพมากที่สุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปที่ศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มแม่น้ำปายตามพระราชดำริ(ท่าโป่งแดง) ต.ผาบ่อง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนายกรัฐมนตรีเคยตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดชและ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ทรงมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจดูแลทุกข์สุขของประชาชน และทรงริเริ่มโครงการต่าง ๆ ที่พัฒนาด้านการเกษตรและสร้างอาชีพให้แก่ชาวเขา การพัฒนาแหล่งน้ำ ซึ่งระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินไปที่จุดต่าง ๆ นายกรัฐมนตรีเปรยกับผู้ร่วมคณะและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ว่า “คิดถึงความรู้สึกและบรรบยากาศเก่า ๆ”.-สำนักข่าวไทย      

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]