กทม.17 ม.ค.- ผบ.ตร.นำทีมแถลงยืนยัน”ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์”ตกเป็นเหยื่อแก๊งโรแมนซ์สแกมหลังเคลียร์ทุกข้อสงสัย เจ้าตัวมอบดอกไม้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ พร้อมเตือนผู้ทำบัตรหายให้แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. นำคณะนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่สอบปากคำผู้ต้องหาแก๊งโรแมนซ์สแกม จากกรณีนางสาวณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ ผู้เสียหายถูกแก๊งโรแมนซ์สแกม นำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคาร 10 บัญชี 8 ธนาคาร โดยใช้ห้องรับรองชั้น 2 เป็นห้องสอบสวน
พล.ต.อ.จักรทิพย์ พุ่งเป้าสอบถามข้อมูลผู้ต้องหาที่นำตัวมาแถลงข่าวเป็นพิเศษ คือนางสาวปวีณา สิงห์วิบูลย์ และนางสาวพรหมพร พงษ์เจริญคุณากร รวมทั้งนายไซมอน ชาวแคมมารูน หัวหน้าแก๊ง
สำหรับนางสาวเจรติ สายสิน ไม่นำตัวมาแถลงเนื่องจากถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจังหวัดนครปฐม ข้อหาฉ้อโกงประชาชนในคดีอื่น โดยใช้วิธีอายัดตัวออกมาแจ้งข้อหานอกเรือนจำ หรือเข้าไปสอบสวนในเรือนจำ
จากนั้นพล.ต.อ.จักรทิพย์ และคณะได้แถลงข่าวยืนยัน นางสาวณิชาเป็นเหยื่อแก๊งโรแมนซ์สแกม หลังสอบผู้ต้องหาในแก๊งนี้ อีกทั้งข้อสงสัยในทุกประเด็นก็เกิดความกระจ่าง อาทิ เงินในบัญชี 6 ล้านบาทตรวจสอบแล้วเป็นเงินหมุนเวียนปกติตั้งแต่ปี 54 ประเด็นเบอร์โทรศัพท์น้องชาย พบว่านางสาวณิชา เปิดเบอร์จริง แต่น้องชายเป็นคนใช้และนำหมายเลขไปสมัครเฟซบุ๊กจึงทำให้เกี่ยวพันกับคนร้าย เมื่อมีการนำบัตรประชาชนของนางสาวณิชา ไปเปิดเบอร์ใหม่ อีกทั้งบัตรประชาชนนางสาวณิชา หายแค่ 2 ครั้ง ไม่ได้หายบ่อยจนผิดปกติ กรณีนางสาวปวีณา โอนเงินเข้าบัญชีนางสาวณิชา เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่นางสาวณิชาไม่ทราบ เนื่องจากไม่ได้ตั้งแจ้งเตือน ประกอบกับนางสาวปวีณา หักหลังนายไซมอน เมื่อเงินเข้าบัญชีแล้วรีบถอนออกทันที เพื่อไม่ให้นายไซมอนรู้ว่ามีเงินเข้าบัญชีในชื่อนางสาวณิชา และจากการตรวจสอบความสัมพันธ์ของนางสาวณิชากับกลุ่มผู้ต้องหา พบว่าไม่รู้จักหรือเคยติดต่อกัน
หลังการแถลงข่าวนางสาวณิชาและพี่สาวซึ่งมาร่วมรับฟังการแถลงข่าว ได้มอบช่อดอกไม้แสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่ปิดคดีได้อย่างรวดเร็วพร้อมขอโทษที่ช่วงแรกให้ข้อมูลไม่ชัดเจน และว่ารู้สึกโล่งใจ คลายความกังวล เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญ และเป็นอุทาหรณ์ ผู้ใดทำบัตรประชาชนหายให้แจ้งความเป็นหลักฐาน หลังคดีจบจะใช้ชีวิตปกติ
มีรายงานว่าพนักงานสอบสวน สภ.บ้านตาก จะทำสำนวนสั่งไม่ฟ้องนางสาวณิชา ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ส่วนนายขวัญ ทองน้อย และนายธีภัทรนนท์ งามวงษ์ อยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบสวน หลังออกหมายเรียกแล้วยังไม่มาพบพนักงานสอบสวน ซึ่งทั้งสองเปิดบัญชีรับโอนเงินจากนางสาวกาต์กสินี ยะเมา ทางเฟซบุ๊ก
สำนักข่าวไทยตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบว่า แก๊งนี้ทำงานเป็นทีม ผู้ต้องหา 4 คน ที่ถูกจับได้ทำหน้าที่เปิดบัญชีและกดเงิน ส่วนผู้ต้องหากลุ่มที่ 2 ทำหน้าที่โทรหลอกลวงเหยื่อที่ติดกับ เคลื่อนไหวทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ระหว่างขยายผลจับกุม ส่วนผู้ต้องหากลุ่มที่ 3 อยู่ในประเทศแถบแอฟริกา ทำหน้าที่สร้างโปรไฟล์ให้น่าเชื่อถือ จากนั้นทักเฟซบุ๊กหรือส่งอีเมลไปหาเหยื่อเพื่อจีบ หว่านล้อมให้เหยื่อหลงรัก เรียกว่าหลอกรักออนไลน์ เป็นที่มาของแก๊งโรแมนซ์สแกม.-สำนักข่าวไทย
