กรุงเทพ
ฯ 16 มกราคม – เจ เวนเจอร์ส
ประกาศระดมทุนครั้งแรกด้วยดิจิทัล โทเคน 100 ล้านเหรียญ
เพื่อนำมาพัฒนาระบบซอฟท์แวร์ทางด้านการปล่อยสินเชื่อด้วยเทคโนโลยี Blockchain
นายธนวัฒน์
เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC)บริษัทย่อยในกลุ่มบริษัท เจมาร์ท กล่าวว่า ประกาศแผนระดมทุนผ่านดิจิทัล
โทเคน เป็นครั้งแรกต่อประชาชน โดยจำนวน JFin Coin ทั้งหมด 300
ล้านเหรียญ แต่จะนำมาทำ Initial Coin Offering หรือ ICO ก่อนจำนวน 100 ล้านเหรียญ
ที่หน่วยละ 0.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินระดมทุน 660 ล้านบาทโดยวัตถุประสงค์ของการระดมทุน
เพื่อนำไปพัฒนาระบบ Digital Lending Platform หรือระบบสินเชื่อแบบดิจิทัลให้กับบริษัท
เจ ฟินเทค ทั้งนี้ ภายใต้ระบบสินเชื่อดังกล่าวบริษัทได้นำเอาเทคโนโลยี Blockchain
เข้ามาใช้ ซึ่งประโยชน์ของเทคโนโลยี Blockchain คือ เป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัย น่าเชื่อถือ และไม่ต้องอาศัยคนกลาง
ในการปล่อยสินเชื่อ
โดย
JVC มองว่าธุรกิจสินเชื่อในกลุ่มบริษัท
เจมาร์ท จะเติบโตได้อีกมาก ด้วยการมี Ecosystem ที่รองรับ
การเติบโตของธุรกิจ และฐานข้อมูลลูกค้า และช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย ซึ่งนำเอา
Blockchain เข้ามาใช้เพื่อรุกธุรกิจสินเชื่อเป็นรายแรกของประเทศ
จะยิ่งสร้างการเติบโตในธุรกิจสินเชื่อได้ โดยบริษัทมีแผนจะเสนอขาย รอบ Presale
ระหว่างวันที่ 14 – 28 กุมภาพันธ์ 2561
และเสนอขายครั้งแรกต่อสาธารณชนทั่วโลก วันที่ 1 – 31 มีนาคม 2561 ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้จัดทำ White
Paper หรือเอกสารแสดงข้อมูลสำหรับการระดมทุนใกล้เสร็จสิ้นแล้ว
โดยจะนำเผยแพร่ต่อผู้ที่สนใจผ่านเว็บไซต์ของ www.jfincoin.io ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเสนอขาย
“JFin” Coin ทั้งนี้ การระดมทุนผ่านดิจิทัล โทเคน
เป็นเรื่องใหม่สำหรับ ประเทศไทย
บริษัทมีความตั้งใจที่จะสร้างให้เทคโนโลยีนี้เข้ามาใช้ได้จริงในอนาคต
โดยได้ศึกษาหลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึง หารือกับหน่วยงานทางการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัจจุบันหลักเกณฑ์อยู่ระหว่างการพิจารณาของทางการ
โดยบริษัทอยากให้ผู้ที่สนใจลงทุนได้ศึกษาข้อมูลที่อยู่ใน White Paper ก่อนตัดสินใจลงทุน
นางทิพยสุดา
ถาวรามร รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) กล่าวว่า ยังไม่มีรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวที่เพียงพอจึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ICOดังกล่าวจะมีลักษณะที่เข้าข่ายเป็น ICOที่เป็นหลักทรัพย์หรือไม่
ทั้งนี้ หากเป็นการระดมทุนที่เข้าข่ายเป็นหุ้นหรือหุ้นกู้
ผู้ออกก็มีหน้าที่ต้องดำเนินการขออนุญาตจาก ก.ล.ต. ตามปกติ
ในด้านผู้ลงทุน
เนื่องจากข้อมูลที่ปรากฏ ยังไม่ชัดเจนว่า ผู้ลงทุนในICOดังกล่าวจะได้ประโยชน์อะไร ก.ล.ต.
จึงขอให้ผู้ลงทุนใช้วิจารณญาณศึกษารายละเอียดเพื่อให้เข้าใจชัดเจนก่อนตัดสินใจลงทุน
นอกจากนี้
ก.ล.ต. เห็นว่า
การที่บริษัทจดทะเบียนมีการเผยแพร่ข่าวซึ่งยังไม่มีความชัดเจนอย่างเพียงพอ เป็นสิ่งที่บริษัทจดทะเบียนควรต้องใช้ความระมัดระวัง
เนื่องจากอาจมีผลต่อราคาหรือการซื้อขายหุ้นของบริษัทได้. – สำนักข่าวไทย