รัฐสภา 16 ม.ค.-ประธานกรธ.ระบุหากสนช.ส่งศาลรธน.ตีความปมลักษณะต้องห้ามป.ป.ช.จะส่งผลดี ป้องกันปัญหาในอนาคต เชื่อไม่กระทบสนช.ที่เข้าชื่อ หากจะเป็น ส.ว.ในอนาคต
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ส่วนหนึ่งเข้าชื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความกรณี สนช.มีมติให้งดเว้นการใช้ลักษณะต้องห้ามในบทเฉพาะกาลของร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกับและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) เพื่อให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบันดำรงตำแหน่งจนครบวาระ ว่า จะเป็นผลดีกับทุกฝ่ายที่จะทำให้ข้อสงสัยได้ข้อยุติ เพื่อไม่ให้มีปัญหาในภายหลัง
“ในอนาคตหากส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความแล้วเกิดปัญหาจะเกิดผลกระทบต่อสิ่งที่กรรมการป.ป.ช.ทำหน้าที่ตลอดมา ซึ่งกรธ.กังวลกับประเด็นดังกล่าว แต่ไม่มีอำนาจยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ จึงได้ส่งข้อกังวลให้สนช.พิจารณาดำเนินการ โดยมั่นใจว่า การเข้าชื่อของสมาชิก สนช.ครั้งนี้จะไม่มีผล หากสนช.ที่เข้าสื่อจะดำรงตำแหน่งส.ว.ในอนาคต” ประธานกรธ. กล่าว
นายมีชัย กล่าวถึงเหตุผลที่ไม่ขอตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย ว่า ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องของเจตนารมณ์ แต่เป็นปัญหาว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ดังนั้น การตั้งกรรมาธิการจึงไม่สามารถหาข้อยุติได้ มีแต่จะล่าช้า แม้บางเรื่องจะไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่เป็นเรื่องว่าสมควรหรือไม่สมควร ถึงจะตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายมาพูดคุยกัน เช่น สนช.จะให้ลดกลุ่มอาชีพส.ว. จาก 20 อาชีพ เป็น 15 อาชีพก็ไม่เป็นปัญหา แต่อาจไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
ส่วนการยื่นตีความครั้งนี้ จะซ้ำซ้อนกับวาระการดำรงตำแหน่งของผู้ตรวจการแผนดินหรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในครั้งนั้นเป็นการตีความยกเว้นเรื่องคุณสมบัติ ไม่ใช่เรื่องลักษณะต้องห้าม ซึ่งเป็นการนำกฎหมายลูกไปยกเว้นรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าไม่มีใบสั่งจากคสช.ตามที่มีคนตั้งข้อสังเกต เพราะใบสั่งไม่สามารถสั่งให้คนทำผิดรัฐธรรมนูญได้.-สำนักข่าวไทย
