ดีเอสไอ บุกค้นอาบอบนวดค้ามนุษย์

พระราม9/12 ม.ค.-ดีเอสไอสนธิกำลังปกครอง ทหารบุกค้นอาบอบนวดดังย่านพระราม9พบลักลอบค้าประเวณีหญิง มีหญิงถูกบังคับหน่วงเหนี่ยว 80 ราย พร้อมจับคนเชียร์แขก ข้อหาสนับสนุนค้ามนุษย์ คาดปิดถาวร


พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล  รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่กรมการปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  นำหมายค้นและหมายจับของศาลอาญา เข้าตรวจค้นสถานอาบอบนวด วิคตอเรียซีเครท  หลังสถานบริการดังกล่าวเปิดให้ บริการในช่วงบ่าย โดยเจ้าหน้าที่ได้นำธนบัตรเข้าล่อซื้อบริการทางเพศกับพนักงานของสถานบริการ เมื่อมีการรับเงินจึงนำกำลังทหารและปกครองเข้าปิดล้อมสถานที่ เพื่อตรวจค้นจับกุม


จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เข้าเก็บหลักฐาน พบว่ามีการลักลอบค้าประเวณีจริง  จากนั้นจึงนำตัวหญิงสาว 80 รายไปคัดแยกและสอบปากคำ 


ส่วนพนักงานและแขกผู้มาใช้บริการได้จัดแยกให้นั่งเป็นกลุ่มเพื่อรอการสอบปากคำ สำหรับบริเวณตู้กระจกที่สาวบริการนั่งโชว์แขกพบร่องรอยการเข้ามาใช้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารจำนวนหลายโต๊ะตั้งอยู่

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจค้นสามารถจับนายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในคดีค้ามนุษย์ซึ่งทำหน้าที่ดูแลลูกค้าและเชียร์แขก และพบว่าสถานบริการแห่งนี้ยังมีการค้าบริการทางเพศมีหญิงสาวให้บริการ 80 คน ส่วนใหญ่ไม่มีบัตรประชาชน สันนิษฐานเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งได้ควบคุมตัวและนำตัวไปตรวจคัดแยกเหยื่อที่ดีเอสไอตามกระบวนการ ซึ่งจะต้องมีเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพและเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมดำเนินการ แยกว่ารายใดอายุไม่ถึง 18ปี เพราะบางรายเคยตรวจสอบพบมีการนำพาสปอร์ตและบัตรประชาชนของบุคคลอื่นมาแสดงเพื่อให้เห็นว่ามีอายุเกิน 18 ปี แต่ในความเป็นจริงยังมีสถานะเป็นผู้เยาว์ ซึ่งอาจจำเป็นต้องตรวจฟันเพื่อพิสูจน์อายุจากมวลกระดูก และแยกแยะสัญชาติ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะมีผู้เยาว์ที่ถูกบังคับค้าประเวณี จำนวนกี่รายจนกว่าจะมีการคัดแยกเหยื่อแล้วเสร็จ

สำหรับสถานบริการแห่งนี้ เป็นสถานบริการที่เปิดถูกต้องตามกฏหมายแต่พบว่า มีการข่มขู่ให้หญิงสาว 80 รายค้าประเวณี มีการบังคับ หน่วงเหนี่ยวกักขัง ซึ่งปีที่แล้วมีหญิงสาวชาวเมียนมา หลายรายถูกหลอกค้าประเวณีที่ประเทศไทยและส่งต่อไปมาเลเซีย  ทั้งนี้การขยายผลจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิดเมื่อปี 2559 และในวันนี้หากพบว่ามีการกระทำผิดเพิ่มก็จะสอบสวนสรุปสำนวนดำเนิน คดีต่อไป

พร้อมกันนี้จะประสาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตรวจสอบว่ามีการเรียกรับส่วยหรือไม่ และประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ขยายผลเกี่ยวกับการฟอกเงินจากการค้ามนุษย์

นายมานะ สิมมา ผู้อำนวยการกองส่วนการสอบสวนคดีอาญา กรมการปกครอง กล่าวว่า ฐานบริการแห่งนี้ถูกล่อซื้อและพบว่ามีความผิดเกี่ยวกับการค้าประเวณีจริง เบื้องต้นจะต้องถูกปิดตามคำสั่งคณะปฏิวัติ และคำสั่งคณะ คสช. ส่วนจะปิดเป็นเวลากี่วันขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) 

แต่จากพฤติการณ์เบื้องต้นคาดว่าจะต้องถูกปิดถาวรเหมือนนาตาลี และจะต้องขยายผลเพื่อยึดทรัพย์ที่ได้จากการฟอกเงินด้วย

ทั้งนี้คดีนี้สืบเนื่องมาจากการร้องขอของมูลนิธิพิทักษ์สตรี ให้เข้าช่วยเหลือเหยื่อที่เป็นเด็กหญิงชาวเมียนมา  กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงดำเนินการสอบสวนและรับเป็นคดีพิเศษที่ 43/2560 โดยพฤติการณ์ทางคดี เป็นการกระทำความผิดในลักษณะที่มีความเกี่ยวข้องกันระหว่างประเทศไทย เมียนมาและมาเลเซีย มีการนำพาเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาค้าประเวณีในประเทศไทย เริ่มจากการนำพาเข้ามาขายบริการในการให้เปิดบริสุทธิ์ ก่อนที่จะนำมาค้าประเวณี ณ สถานอาบอบนวด วิคตอเรียซีเครท ซึ่งเข้าลักษณะความผิดฐานค้ามนุษย์ อันเป็นความผิดที่กระทำนอกราชอาณา จักรไทย ซึ่งอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ พร้อมแต่งตั้งพนักงานอัยการร่วมสอบสวนกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ

ในขั้นตอนของการสัมภาษณ์คัดแยกเหยื่อซึ่งเป็นผู้เสียหาย และการสอบสวนผู้เสียหายซึ่งดำเนินการโดยสหวิชาชีพ ได้ให้รายละเอียดและข้อเท็จจริงว่า ได้ถูกนำมาค้าประเวณีที่สถานที่แห่งนี้ตั้งแต่อายุ 12 ปี ตลอดจนการสืบสวนสอบสวนมีข้อมูลชัดเจนถึงกลุ่มผู้กระทำผิด อันนำไป สู่การขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหารวม 7 ราย โดย 1 ในผู้ต้องหา ปัจจุบันทำงานอยู่ในสถานบริการแห่งนี้ และมีพฤติการณ์ในลักษณะของการเชียร์แขก และสถานบริการแห่งนี้จากการสืบสวนมาก่อนพบว่า มีการลักลอบค้าประเวณี   ในการเข้าจับกุมจึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง เจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

เพื่อเข้าตรวจค้นและจับกุมในความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

“ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” ไม่กังวลปมคุณสมบัติ

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” อุบตอบ “กล้าธรรม” ได้กระทรวงอะไรเพิ่ม ไม่กังวลปมคุณสมบัติ เหตุตัวเองเป็น “รมต.” มา 2 รอบแล้ว แย้ม เลขาฯ พรรค ต้องได้เก้าอี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เดินทางมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเป็นการส่วนตัว จากนั้นเวลา 16.50 น. นายอนุทิน และ ร.อ.ธรรมนัส เดินลงจากที่ทำการพรรคมายังร้านกาแฟจาริสต้าร์ ซึ่งมี น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส รออยู่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส สั่งเครื่องดื่มอเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มาซื้อกาแฟวันนี้ หมายความว่าได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนมารับภรรยา เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมมีการพูดคุยตำแหน่งรัฐมนตรีลงตัวแล้วหรือไม่ […]

พายุไต้ฝุ่น ‘เผ่ย์ผ่า’ ถล่มชิซูโอกะในญี่ปุ่น

โตเกียว 6 พ.ย. – พายุไต้ฝุ่น “เผ่ย์ผ่า” (Peipah) ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในจังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันศุกร์ โดยมีรายงานว่าลมกระโชกแรงจากพายุลูกนี้ทำลายอาคารไปอย่างน้อย 220 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน เอ็นเอชเค สื่อสาธารณะของญี่ปุ่นรายงานว่า ตรวจพบกระแสลมแรงใน เขตเทศบาล 4 แห่งของจังหวัดชิซูโอกะ ซึ่งรวมถึงเมืองโยชิดะและเมืองมากิโนะฮาระ เจ้าหน้าที่เมืองมากิโนะฮาระระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 20 ราย ณ เวลา 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย นอกจากนี้ เอ็นเอชเค ยังรายงานด้วยว่า มีอาคารอย่างน้อย 43 หลังในเมืองมากิโนะฮาระถูกทำลายทั้งหมดหรือเสียหายครึ่งหนึ่งและอีก 184 หลังได้รับความเสียหายบางส่วน พายุ “เผ่ย์ผ่า” ได้ลดระดับลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเวลาประมาณ 21:00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น […]

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 วอนอย่าหลงเชื่อข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง

7 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 วอนอย่าหลงเชื่อ ข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง ยันทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ชาติ พระมหากษัตริย์ และประชาชน เท่านั้น เมื่อวันที่ 7 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีสื่อโซเชียล นำภาพของตนมาประกอบกับข้อความเรื่องโยงการเมืองว่า ขอพี่น้องประชาชนโปรดอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เป็นการสร้างกระแส ยุยง ปลุกปั่น ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ตนพูดชัดอยู่แล้วว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ตนเป็นทหาร ไม่ยุ่งเรื่องการเมืองอยู่แล้ว การเมืองก็ให้เขาว่ากันไป เรามีหน้าที่ดูแลอธิปไตยของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน นี่คือหน้าที่ของทหาร “ถึงผมจะเกษียณอีกไม่กี่วัน แต่ผมก็คือทหาร จะไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมืองอย่างแน่นอน” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

โคลนผุดบนถนนย่านวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นถนนทรุด

กทม. 7 ก.ย. – ดินโคลนผุดใต้พื้นถนนบริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นพื้นทรุดตัว เจ้าหน้าที่เร่งถมยางมะตอย หลังจากฝนตกติดต่อกันหลายวัน ช่วงบ่ายของวันนี้ บริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ มีโคลนสีเหลือง ผุดขึ้นมาบนพื้นถนนจำนวนมาก จนทำให้การจราจรบริเวณนั้นติดขัด โดยพื้นที่บริเวณดังกล่าวกำลังมีการก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก ) ซึ่งสาเหตุที่มีโคลนสีเหลืองผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก สันนิษฐานว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสาเหตุทำให้น้ำเข้าไปขังใต้พื้นถนนกลายเป็นดินโคลนที่ผุดขึ้นมา ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่โครงการรถไฟฟ้า ได้นำยางมะตอยเข้ามาถมจุดที่มีโคลนผุดขึ้นมา พร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องการทรุดตัวของพื้นถนน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชนที่สัญจรเส้นทางดังกล่าว ฝากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่จะสัญจรเส้นทางดังกล่าว หากไม่มีกรณีเร่งด่วนให้หลีกเลี่ยง หรือเปลี่ยนเส้นทางสัญจร เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน.-สำนักข่าวไทย

เขมรครึ่งร้อยป่วนบ้านหนองจานอีก

สระแก้ว 7 ก.ย. – ชาวกัมพูชากว่า 50 คน รวมตัวท่ามกลางสายฝน กดดันทหารไทย เกณฑ์เด็ก-ผู้หญิง เข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน สร้างเพิงพักชั่วคราวใกล้แนวชายแดน ชาวกัมพูชากว่า 50 คน รวมตัวท่ามกลางสายฝน กดดันทหารไทย โดยเกณฑ์เด็กและผู้หญิงเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน ใกล้หลักเขต 46 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ทั้งสร้างเพิงพักชั่วคราวบริเวณใกล้แนวชายแดน สถานการณ์โดยรวมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ปรากฏเหตุการณ์ความวุ่นวาย หรือการกระทบกระทั่งแต่อย่างใด ส่วนบริเวณจุดตรวจ 40 บ้านหนองจาน ผู้กำกับ สภ.โคกสูง ได้จัดกำลังตำรวจเข้าดูแลพื้นที่รักษาความปลอดภัย ช่วงเวลา 11.00 น. มีกลุ่มมวลชนเดินทางเข้ามาในพื้นที่ประมาณ 20 คน เหตุการณ์ทั่วไปยังปกติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ลั่นนั่งนายกฯ ควบ มท.1 เร่งแก้ปัญหา 4 ด้าน

พรรคภูมิใจไทย 7 ก.ย.- “อนุทิน” ลั่นไม่ติดหนี้บุญคุณใคร นอกจากประชาชน โพล่งนั่งนายกฯ ควบ มท.1 ประกาศเร่งแก้ปัญหา 4 ด้าน ยันไม่มีแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. ทุกอย่างกางบนโต๊ะโปร่งใส ไม่ยัดเยียดปรุงแต่ง หรือกลั่นแกล้งใคร เหมือนที่เคยโดน สั่งล่วงหน้า ครม.หนู เวลาน้อยแค่ 4 เดือน ต้องไม่เหนื่อย-ไม่ป่วย-ไม่ลา-ทำงานไม่มีวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า นับเป็นพระมหากรุณากรุณาธิคุณ แก่ตัวกระผมอันหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ผมยืนยันด้วยความตระหนักดีว่าการเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันนี้ อาจมีข้อจำกัดหลายประการหลายด้าน ในการปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม ผมให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่าน ว่า ตนและคณะรัฐมนตรีของผมทุกคน จะมุ่งมั่นทุ่มเททำงานด้วยความไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย จะใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเรามีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกำลังกาย กำลังสมอง เพื่อให้ประเทศไทยของเราได้หลุดพ้นจากสถานการณ์วิกฤตต่าง ๆ โดยเร็วที่สุด ต้องขอขอบพระคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ความมั่นใจโดยผ่านความไว้วางใจและการลงคะแนนเสียงของบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาชนที่ได้ให้การสนับสนุนตนให้เข้ามาแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า และได้เสียสละให้ประเทศไทยมีทางออกและหลังจากลงคะแนนเสียงเรียบร้อยแล้ว ได้กลับไปอยู่ในเจตนารมณ์เดิมของพรรคประชาชนคือการเป็นฝ่ายตรวจสอบ ตนได้ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรรกล้าธรรม […]