ดีเอสไอ บุกค้นอาบอบนวดค้ามนุษย์

พระราม9/12 ม.ค.-ดีเอสไอสนธิกำลังปกครอง ทหารบุกค้นอาบอบนวดดังย่านพระราม9พบลักลอบค้าประเวณีหญิง มีหญิงถูกบังคับหน่วงเหนี่ยว 80 ราย พร้อมจับคนเชียร์แขก ข้อหาสนับสนุนค้ามนุษย์ คาดปิดถาวร


พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล  รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่กรมการปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  นำหมายค้นและหมายจับของศาลอาญา เข้าตรวจค้นสถานอาบอบนวด วิคตอเรียซีเครท  หลังสถานบริการดังกล่าวเปิดให้ บริการในช่วงบ่าย โดยเจ้าหน้าที่ได้นำธนบัตรเข้าล่อซื้อบริการทางเพศกับพนักงานของสถานบริการ เมื่อมีการรับเงินจึงนำกำลังทหารและปกครองเข้าปิดล้อมสถานที่ เพื่อตรวจค้นจับกุม


จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เข้าเก็บหลักฐาน พบว่ามีการลักลอบค้าประเวณีจริง  จากนั้นจึงนำตัวหญิงสาว 80 รายไปคัดแยกและสอบปากคำ 


ส่วนพนักงานและแขกผู้มาใช้บริการได้จัดแยกให้นั่งเป็นกลุ่มเพื่อรอการสอบปากคำ สำหรับบริเวณตู้กระจกที่สาวบริการนั่งโชว์แขกพบร่องรอยการเข้ามาใช้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารจำนวนหลายโต๊ะตั้งอยู่

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจค้นสามารถจับนายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในคดีค้ามนุษย์ซึ่งทำหน้าที่ดูแลลูกค้าและเชียร์แขก และพบว่าสถานบริการแห่งนี้ยังมีการค้าบริการทางเพศมีหญิงสาวให้บริการ 80 คน ส่วนใหญ่ไม่มีบัตรประชาชน สันนิษฐานเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งได้ควบคุมตัวและนำตัวไปตรวจคัดแยกเหยื่อที่ดีเอสไอตามกระบวนการ ซึ่งจะต้องมีเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพและเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมดำเนินการ แยกว่ารายใดอายุไม่ถึง 18ปี เพราะบางรายเคยตรวจสอบพบมีการนำพาสปอร์ตและบัตรประชาชนของบุคคลอื่นมาแสดงเพื่อให้เห็นว่ามีอายุเกิน 18 ปี แต่ในความเป็นจริงยังมีสถานะเป็นผู้เยาว์ ซึ่งอาจจำเป็นต้องตรวจฟันเพื่อพิสูจน์อายุจากมวลกระดูก และแยกแยะสัญชาติ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะมีผู้เยาว์ที่ถูกบังคับค้าประเวณี จำนวนกี่รายจนกว่าจะมีการคัดแยกเหยื่อแล้วเสร็จ

สำหรับสถานบริการแห่งนี้ เป็นสถานบริการที่เปิดถูกต้องตามกฏหมายแต่พบว่า มีการข่มขู่ให้หญิงสาว 80 รายค้าประเวณี มีการบังคับ หน่วงเหนี่ยวกักขัง ซึ่งปีที่แล้วมีหญิงสาวชาวเมียนมา หลายรายถูกหลอกค้าประเวณีที่ประเทศไทยและส่งต่อไปมาเลเซีย  ทั้งนี้การขยายผลจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิดเมื่อปี 2559 และในวันนี้หากพบว่ามีการกระทำผิดเพิ่มก็จะสอบสวนสรุปสำนวนดำเนิน คดีต่อไป

พร้อมกันนี้จะประสาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตรวจสอบว่ามีการเรียกรับส่วยหรือไม่ และประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ขยายผลเกี่ยวกับการฟอกเงินจากการค้ามนุษย์

นายมานะ สิมมา ผู้อำนวยการกองส่วนการสอบสวนคดีอาญา กรมการปกครอง กล่าวว่า ฐานบริการแห่งนี้ถูกล่อซื้อและพบว่ามีความผิดเกี่ยวกับการค้าประเวณีจริง เบื้องต้นจะต้องถูกปิดตามคำสั่งคณะปฏิวัติ และคำสั่งคณะ คสช. ส่วนจะปิดเป็นเวลากี่วันขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) 

แต่จากพฤติการณ์เบื้องต้นคาดว่าจะต้องถูกปิดถาวรเหมือนนาตาลี และจะต้องขยายผลเพื่อยึดทรัพย์ที่ได้จากการฟอกเงินด้วย

ทั้งนี้คดีนี้สืบเนื่องมาจากการร้องขอของมูลนิธิพิทักษ์สตรี ให้เข้าช่วยเหลือเหยื่อที่เป็นเด็กหญิงชาวเมียนมา  กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงดำเนินการสอบสวนและรับเป็นคดีพิเศษที่ 43/2560 โดยพฤติการณ์ทางคดี เป็นการกระทำความผิดในลักษณะที่มีความเกี่ยวข้องกันระหว่างประเทศไทย เมียนมาและมาเลเซีย มีการนำพาเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาค้าประเวณีในประเทศไทย เริ่มจากการนำพาเข้ามาขายบริการในการให้เปิดบริสุทธิ์ ก่อนที่จะนำมาค้าประเวณี ณ สถานอาบอบนวด วิคตอเรียซีเครท ซึ่งเข้าลักษณะความผิดฐานค้ามนุษย์ อันเป็นความผิดที่กระทำนอกราชอาณา จักรไทย ซึ่งอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ พร้อมแต่งตั้งพนักงานอัยการร่วมสอบสวนกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ

ในขั้นตอนของการสัมภาษณ์คัดแยกเหยื่อซึ่งเป็นผู้เสียหาย และการสอบสวนผู้เสียหายซึ่งดำเนินการโดยสหวิชาชีพ ได้ให้รายละเอียดและข้อเท็จจริงว่า ได้ถูกนำมาค้าประเวณีที่สถานที่แห่งนี้ตั้งแต่อายุ 12 ปี ตลอดจนการสืบสวนสอบสวนมีข้อมูลชัดเจนถึงกลุ่มผู้กระทำผิด อันนำไป สู่การขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหารวม 7 ราย โดย 1 ในผู้ต้องหา ปัจจุบันทำงานอยู่ในสถานบริการแห่งนี้ และมีพฤติการณ์ในลักษณะของการเชียร์แขก และสถานบริการแห่งนี้จากการสืบสวนมาก่อนพบว่า มีการลักลอบค้าประเวณี   ในการเข้าจับกุมจึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง เจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

เพื่อเข้าตรวจค้นและจับกุมในความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วมือเผารถ “ศิริโชค” ญาติเผยจิตไม่ปกติ

6 ก.ค. – จับได้แล้ว มือวางเพลิงรถยนต์ “ศิริโชค” ตำรวจเค้นสอบ ยอมรับก่อเหตุจริง ญาติเผยจิตไม่ปกติ พูดคนเดียวมาหลายเดือน ด้าน “ศิริโชค” ไม่เชื่อลงมือเองจากอาการทางจิต น่าจะมีคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง กล้องวงจรปิดจับภาพนายเบียร์ อายุ 29 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในซอยบ้านพักของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.เขต 7 สงขลา 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงตี 3 คืนวานนี้ (5 ก.ค.) ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา และไปคุยกับคนเฝ้าบ้านนายศิริโชค ที่ประตูหน้าบ้าน ก่อนขี่รถออกไป จากนั้นช่วงเวลา 03.45 น. นายเบียร์ขี่รถย้อนกลับเข้าไปในซอยบ้านของนายศิริโชคอีกครั้ง ก่อนจะมีข่าวรถยนต์ GWM HAVAL H6 PHEV หรือปลั๊กอิน-ไฮบริด กึ่งไฟฟ้ากึ่งน้ำมัน เกิดเพลิงไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ซึ่งขณะนั้น ยังไม่มั่นใจว่าเกิดจาะระบบรถยนต์ขัดข้อง หรือสาเหตุอย่างอื่น จนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นที่แน่ชัดว่า นายเบียร์เป็นคนก่อเหตุวางเพลิงรถยนต์ของนายศิริโชค […]

“โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 6 ก.ค. – “โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา “สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ-หน่วยงานปกครอง” ลงด้วยเพียบ สงสัยฝั่งตรงข้ามเป็นฐานสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์ หรือไม่ แย้มมีข้อมูลทุนใหญ่เป็นหลังบ้านผู้มีอำนาจกัมพูชา เจอแน่ปิดห้องคุยพรุ่งนี้ แนะสร้างเสาเซ็นเซอร์ตรวจจับชายแดน หมาแมวตรวจได้หมด หากลักลอบเข้า ด้าน “ชุติพงศ์” โวย เขมรไม่ทำรั้ว-รับผิดชอบ ปล่อยผ่านคนลักลอบเข้าออก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร​ ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว​ ร่วมกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ​ สภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อดูการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและการบริหารกิจการชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยมีหน่วยงานความมั่นคง​ นายอำเภอ​ กรมการปกครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ด้วย จุดแรกมาที่บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้า​อรัญประเทศ​ โดย พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา รายงาน​ว่า​ จุดนี้​เป็นพื้นที่​ที่การข่าวแจ้งว่า​ใช้เป็นช่องทางลักลอบข้ามไปฝั่งกัมพูชา​ เป้าหมายไปทำงานหรือเล่นการพนัน​ ปัจจุบันได้ซีลพื้นที่ตรงนี้แล้ว แต่ก็มีการลักลอบเข้าออกตลอด แม้จะมีสถานการณ์ไทย-กัมพูชา […]

“บิ๊กเต่า” ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด คลี่ปมพัวพันสีกา ก.

6 ก.ค.- “บิ๊กเต่า” เผยคำให้การสีกา ก. เป็นประโยชน์ อาจโยงไปถึงการทุจริต แต่ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด เตรียมประชุมคณะทำงานสัปดาห์หน้า เรียกผู้เกี่ยวข้องสอบเพิ่มเติม ยืนยันหากพบใครเอี่ยวพร้อมดำเนินคดี 12.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงกรณีการเรียกตัวสีกาอักษรย่อ ก. มาสอบปากคำ ว่า หลังจากนำตัวสีกา ก. มาสอบ ก็ได้ข้อมูลในแนวทางที่ดีและมีประโยชน์ อาจนำไปสู่เรื่องที่อาจเอี่ยวกับการทุจริต แต่ก็จะต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด เพราะทุกอย่างต้องชัดเจน เนื่องจากคำให้การอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีหลักฐานอื่นประกอบด้วย จากคำให้การของสีกา ก. ว่า มีการเล่นพนันออนไลน์ แล้วเงินที่ใช้เล่นเป็นเงินส่วนไหน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า “ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่เขามีการเล่นพนันจริง” ตอนนี้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว โดยมี ปปป. เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวพันหลายพื้นที่ ส่วนเรื่องบัญชีวัด ทางบก.ปปป. ก็มีอำนาจสามารถตรวจสอบได้เลย ประมาณวันจันทร์-อังคารที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า สีกา ก. เคยทำให้พระสึกมาแล้วถึง 2 รูป จริงหรือไม่ […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย