กรุงเทพฯ 10 ต.ค.- ตำรวจเร่งคลี่คลายปมฆ่าหญิงเร่ร่อน ย่านพหลโยธิน รอผลตรวจคราบเลือดจิมมี่ตรงกับผู้ตายหรือไม่ ขณะที่กองปราบยอมรับจับชายต้องสงสัยจริง อ้างมีส่วนรู้เห็นคดีฆ่าที่ จ.ปทุมฯ แต่ให้การวกวน และชี้จุดเกิดเหตุไม่ตรง จึงเจาะเลือดตรวจหาดีเอ็นเอ
พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมพลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประชุมทีมสืบสวนติดตามคดีพบศพหญิงเร่ร่อนใต้สะพานข้ามแยกลาดพร้าว
พลตำรวจโทศานิตย์ ระบุลักษณะพฤติกรรมของคนร้ายที่ลงมือกับศพหญิงเร่ร่อนมีความคล้ายคลึงกับคดีต่อเนื่อง 3 ศพ ที่จังหวัดปทุมธานี เนื่องจากใช้มีดเป็นอาวุธ ตามร่างกายศพมีรอยมีด และลงมือเฉพาะกับผู้เร่ร่อนเก็บขยะเท่านั้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ คราบเลือดที่พบบนตัวจิมมี่ หรือบัง อายุ 20 ปี ชาวเมียนมาร์ ผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรม 3 ศพ ในจังหวัดปทุมธานี ที่ถูกจับกุมได้ในพื้นที่ สน.บางซื่อ คาดทราบผลในช่วงเย็นวันนี้ หากคราบเลือดตรงกับศพใดศพหนึ่งใน 4 ศพ จะชี้ชัดได้ว่านายจิมมี่คือผู้ลงมือก่อเหตุจริง ส่วนผู้ต้องสงสัยอีกคนที่ทางกองปราบปรามได้จับกุมนั้นขอไม่กล่าวถึงให้เป็นหน้าที่ให้เป็นของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ขณะที่ศพหญิงเร่ร่อน ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบแล้ว และขณะนี้ยังไม่ทราบชื่อของผู้ตาย ทราบเพียงเป็นคนเร่ร่อน มีอาการวิกลจริต เพิ่งจะมาอาศัยอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุได้ประมาณ 1 เดือน
จากการสอบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบนายจิมมี่ ผู้ต้องหา อยู่ในบริเวณจุดเกิดเหตุจริง ซึ่งเป็นหลักฐานมัดตัวชัดเจน ประกอบกับมีพยานเด็ก 6 ขวบ ยืนยันอีก
ส่วนคดีลุงยิ้มที่ถูกฆาตกรรมบริเวณถนนประดิพัทธ์ เมื่อช่วงเดือนกันยายน ตำรวจยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบแผนประทุษกรรมและรายละเอียดของศพว่าจะมีความเชื่อมโยงกับคดีนี้ด้วยหรือไม่ แต่เบื้องต้นมีลักษณะการก่อเหตุใกล้เคียงกันถูกแทงด้วยมีด
ด้าน พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม ยอมรับว่า ตำรวจกองปราบปรามได้คุมตัวผู้ต้องสงสัย ที่เป็นชายเก็บของเก่าและเร่ร่อนมาสอบสวน หลังพบรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับผู้ต้องสงสัย ก่อเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องคนเก็บของเก่าในพื้นที่ จ.ปทุมธานี โดยชายคนดังกล่าวให้การอ้างในทำนองว่ามีส่วนรู้เห็นกับการเสียชีวิตของคนเก็บของเก่า 3 ราย จึงนำตัวไปชี้ที่เกิดเหตุ ซึ่งชี้ไม่ตรงจุด รวมทั้งยังให้การวกวน จึงยังไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด จึงเก็บดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยไว้และอยู่ระหว่างรอผลตรวจ เนื่องจากคนเร่ร่อนจะมีสภาวะะจิตใจไม่ค่อยปกติ ส่วนศพหญิงเร่ร่อนที่พบรายล่าสุดนั้นคงต้องรอผลตรวจพิสูจน์ยืนยันเช่นกัน เพราะผู้ต้องสงสัยอ้างว่าไม่เคยเข้ามาในกรุงเทพฯ
อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ปล่อยตัวไปแล้ว แต่ก็ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเฝ้าติดตามไว้ เพราะหากผลดีเอ็นเอออกมายืนยันตรงกับที่เกิดเหตุก็สามารถควบคุมตัวมาได้ทันที.-สำนักข่าวไทย