สำนักงบประมาณ 10 ม.ค. – รัฐบาลวางกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 62 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท มุ่งเน้นการปฏิรูป ลดความเหลื่อมล้ำ สังคมดิจิทัล ขณะที่คลังเสนอจัดงบกลางพิเศษปี 61 เพิ่มอีก 1.5 แสนล้านบาท รองรับปฏิรูปภาคเกษตร เติมบัตรสวัสดิการฯ ดูแลสังคม
นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า การประชุม 4 หน่วยงานร่วมกับกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อร่วมกำหนดกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท เป้าหมายรายได้ 2.55 ล้านล้านบาท สูงกว่าปี 2561 จึงเป็นงบประมาณแบบขาดดุล 450,000 ล้านบาท มุ่งเน้นใช้เงิน เพื่อการปฏิรูปหลายด้าน ทั้งเรื่องลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ สังคมดิจิทัล การเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ภายใต้สมมติฐานจีดีพีขยายตัวร้อยละ 4.2 เพิ่มจากปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 4 กำหนดงบลงทุนวงเงิน 600,000 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 20 ของงบประมาณโดยรวม งบประจำสัดส่วนร้อยละ 70 ทั้งเงินเดือนและส่วนที่เกี่ยวข้องกับรายได้ราชการ บำเหน็จบำนาญ ผู้สูงอายุ และการอุดหนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ร้อยละ 29.5 ส่วนที่เหลือตั้งชำระหนี้เงินต้น การชำระหนี้เงินต้น 70,000 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 3
ทั้งนี้ ยอมรับว่าปี 2562 ต้องกันงบรองรับการปฏิรูปด้านต่างๆ วงเงิน 1 ล้านล้านบาท อีกทั้งต้องพัฒนาโครงสร้างหลายด้าน จึงต้องขาดดุลงบประมาณเท่ากับปี 2561 อีกทั้งเริ่มปฏิรูประบบงบประมาณ เพื่อจัดสรรงบแบบภูมิภาค จากเดิมจัดสรรงบผู้ว่าราชการจังหวัด งบกลุ่มจังหวัด เพิ่มมาเป็นงบระดับภูมิภาค เน้นใช้รูปแบบระดมความเห็นจากหลายส่วนทั้งเอกชน ส่วนราชการ อปท. ต้องการพัฒนาระดับภาคอย่างไร ตามความต้องการของพื้นฐาน เตรียมเสนอ ครม.พิจารณากรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายวันที่ 16 มกราคม จากนั้นเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาวาระแรกต้นเดือนมิถุนายนและกำหนดให้ส่วนราชการเสนอขอวงเงินภายในวันที่ 25 มกราคมนี้ สำหรับปัญหาของกระทรวงสาธารณสุขต้องพิจารณาปัญหาว่ามีสาเหตุจากบริหารจัดการอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้กระทบต่อระบบรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลของรัฐ
นายเดชาภิวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเสนอจัดทำงบกลางปีพิเศษเพิ่มปี 2561 วงเงิน 150,000 ล้านบาท กระทรวงการคลังเตรียมเสนอ ครม.พิจารณาพร้อมกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 2562 อังคารหน้า เพื่อแบ่งเป็นการกู้เงินจากระบบ 100,000 ล้านบาท และรายได้เพิ่มขึ้น 50,000 ล้านบาท โดยยอดรายได้เพิ่มจะนำไปชดเชยเงินคงคลัง เพื่อนำไปใช้เรื่องบำเหน็จบำนาญราชการ ส่วนการกู้เงินใช้รองรับการปฏิรูปด้านต่างๆ ของรัฐบาล การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน การดูแลสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอ ครม.พิจารณางบประมาณกลางปี 2561 สำหรับยอดวงเงิน 100,000 ล้านบาท ต้องจัดหาแหล่งเงินกู้ทั้งหมดช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อเสนอ สนช. พิจารณาภายในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อปฏิรูปประเทศโดยเฉพาะเศรษฐกิจระดับฐานราก เน้นการใช้เงิน 4 แนวทางหลัก คือ รองรับโครงการช่วยคนจนเฟส 2 จำนวน 35,000 ล้านบาท อีกส่วน 40,000 ล้านบาท ใช้ปฏิรูปภาคเกษตร เช่น ราคายางพาราตกต่ำ ชดเชยการตัดต้นยาง เพื่อลดพื้นที่ปลูกยางร้อยละ 10-20 ผลักดันราคายางเพิ่มขึ้น ส่วนที่เหลืออีก 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้พัฒนาเศรษฐกิจชุมชนในตำบลต่างๆ 10,000 ล้านบาท เพื่อให้กระทรวงมหาดไทยเสนอโครงการลงทุนมาให้พิจารณาแผนลงทุน และอีก 10,000 ล้านบาท ส่งให้กองทุนหมู่บ้านสร้างความเข้มแข็ง.-สำนักข่าวไทย