รัฐบาลเร่งปฏิรูปความมั่นคงของประเทศในทุกด้าน

ทำเนียบฯ 4 ม.ค.- รัฐบาลเร่งปฏิรูปความมั่นคงของประเทศในทุกด้าน เพื่อพัฒนาระบบข่าวกรองให้มีประสิทธิภาพในทุกมิติ และเสริมสร้างความมั่นคงของประเทศ พร้อมปฏิรูปกระทรวงกลาโหม  จัดทำแผนแม่บท 10 ปี เพื่อพัฒนาระบบการรบและบุคลากรไปพร้อมกัน


พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมปฏิรูปความมั่นคง วันนี้ (4 ม.ค.) ที่มี พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี  และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า ขณะนี้รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาและปฏิรูปความมั่นคง  เพื่อให้มีรากฐานที่เข้มแข็ง รองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน ใน 4 เรื่องหลัก คือ เรื่องงานข่าวกรอง  เรื่องความมั่นคง  การปฏิรูปกระทรวงกลาโหม   และการปฏิรูปงานตํารวจ

พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า  ในส่วนของงานข่าวกรอง ได้มีการจำแนกระบบการทำงานให้มีความเป็นลำดับ เพื่อลดภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งการจัดหาเครื่องมือ  เพื่อเชื่อมโยงระบบต่างๆ ให้มีความทันสมัย  การเชื่อมโยงงานต่างประเทศ และการบูรณาการในสายงานข่าวเคลื่อนที่ ให้มีความน่าเชื่อถือ เพื่อสกัดกั้นภัยในทุกรูปแบบ  


พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า  ด้านความมั่นคง  ขณะนี้ได้มีการบูรณาการระบบฐานข้อมูลกลาง เพื่อดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) และพัฒนาระบบการแจ้งเตือนข้อมูลให้มีความเสถียรมากยิ่งขึ้น คาดว่า ภายในเดือนกันยายนปี 2561  จะแล้วเสร็จ การจัดตั้งเว็บไซต์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเป็นหูเป็นตาให้กับภาครัฐ และเป็นศูนย์กลางส่งต่อข้อมูลให้ถึงประชาชนโดยไว  รวมถึง  การจัดตั้งสถาบันอัตลักษณ์แห่งชาติ 

พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า  ส่วนการปฏิรูปกระทรวงกลาโหม มีการจัดทำแผนแม่บท และการพัฒนาขีดความสามารถของกระทรวงกลาโหม ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว (พ.ศ.2560-2569) เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติป้องกันประเทศ 10 ปีของรัฐบาล เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในทุกมิติ ทั้งในด้านการพัฒนาการซ้อมรบให้มีความพร้อมอยู่เสมอ ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากร  17 หน่วยงาน ซึ่งขณะนี้กระทรวงกลาโหม ได้ลดอัตราของบุคลากรและลดงบประมาณได้ถึง 47 ล้านบาทต่อปี   

พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า  ด้านการปฏิรูปตำรวจ จะมีการปฏิรูป 6 ด้านตามที่รัฐบาลได้มีมติ และปฎิรูปกระบวนการยุติธรรม ตามที่รัฐธรรมนูญได้กำหนด คือ การปฏิรูปโครงสร้างของตำรวจ ระบบการสืบสวนสอบสวน การบังคับใช้กฎหมายให้มากขึ้น   พัฒนาศักยภาพและระบบเทคโนโลยีการใช้กล้อง เพื่อให้การทำงานของตำรวจมีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น  บังคับใช้กฎหมายและอำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐให้มีความอิสระตามกระบวนการยุติธรรม และเพิ่มอำนาจให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มากขึ้น 


“พล.อ.ประวิตร ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องรู้จักหน้าที่ของตนเองให้มากขึ้น รู้จักวินัย ให้สามารถ ให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และ สามารถทำงานกับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ให้ทุกหน่วยงาน ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องงานข่าวกรอง และให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติที่รัฐบาลกำหนด “ พล.ท.คงชีพ กล่าว        .- สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยทั่วไทยอากาศหนาว-ภาคใต้ ฝนน้อย

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีหมอกบางในตอนเช้า ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน อากาศหนาวถึงหนาวจัด ภาคใต้มีฝนน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น

กล้อง CCTV จับภาพผู้ต้องสงสัย 2 ราย ก่อเหตุ จยย.บอมบ์

กล้อง CCTV จับภาพผู้ต้องสงสัย 2 ราย คาดเป็นคนร้ายก่อเหตุ จยย.บอมบ์ ปัตตานี มีผู้บาดเจ็บ 10 ราย ทั้งเจ้าหน้าที่ อส. ตำรวจ และชาวมาเลเซีย

พิธีสืบพระชะตาหลวง

รัฐบาลจัดยิ่งใหญ่ พิธีสืบพระชะตาหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล

รัฐบาลจัดพิธีสืบพระชะตาหลวงและพิธีแห่ไม้ค้ำโพธิ์หลวง อย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล

เรือใบคาตามารันพร้อม 38 ชีวิต ล่มทะเลภูเก็ต

เรือใบคาตามารันล่ม ขณะนำนักท่องเที่ยวพร้อมลูกเรือรวม 38 ชีวิต ออกไปดำน้ำบนเกาะราชา จ.ภูเก็ต ล่าสุดทุกคนได้รับการช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งปลอดภัย