สถิติจับคุมประพฤติช่วงเดียวกันปีนี้สูงกว่าปีที่แล้ว

ก.ยุติธรรม 3 ม.ค. – สถิติจับคุมประพฤติช่วงเดียวกันปีนี้สูงกว่าปีที่แล้ว  ที่มีประมาณ 3,500 คดี แต่ในปีนี้มีแล้วถึง 3,936 คดี ห่วงสาเหตุเมาแล้วขับ เตรียมหารือเตรียมเพิ่มความเข้มข้นรับสงกรานต์


นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยภาพรวมข้อมูล สถิติศาลสั่งคุมประพฤติคดี พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ และขับรถประมาทในช่วงเทศกาลปีใหม่ ช่วง 7 วันอันตราย โดยภาพรวม 6 วัน ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2560 ถึง 2 มกราคม 2561 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาพบว่าแนวโน้มสูงขึ้นเล็กน้อย โดยเมื่อปีที่แล้วในช่วง 6 วันมีผู้ที่ศาล สั่งคุมประพฤติ ประมาณ 3,500 คดีเท่านั้น แต่ในปีนี้มีแล้วถึง 3,936 คดี  ตัวเลขที่น่าห่วงคือ คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 3,515  ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 89.30  


ทั้งนี้ ตัวเลขผู้กระทำความผิดกรมฯได้ข้อมูลมาจากศาล เพราะกรมทำงานขึ้นกับอำนาจของศาล ซึ่งตำรวจจะเป็นต้นทางในการจับกุมผู้กระทำความผิดในช่วง 6 วันที่ผ่านมาจับกุมผู้กระทำผิดไดถึงกว่า 6 แสนราย แต่ที่เป็นคดีร้ายแรงจนต้องส่งศาลให้มีการควบคุมความประพฤติมีตามที่ได้รายงานไปแล้ว 


สำหรับตัวเลขที่เกิดขึ้น  สร้างความเป็นห่วง  เพราะแม้ว่าทุกหน่วยงานภาครัฐและภาคีต่าง ๆ จะร่วมรณรงค์อย่างเข้มข้น แต่ตัวเลขอุบัติเหตุไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์  ซึ่งหลังจากจบโครงการนี้ จะต้องหารือประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการควบคุม การบังคับใช้กฏหมาย และลงโทษที่เข้มข้นให้มากขึ้นกว่าเดิมเพื่อป้องกันในช่วงเทศกาลที่จะถึง  อย่างเทศกาลสงกรานต์ 

“เหตุโดยตรงคือ มาจากสุรา การที่มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอห้ามขายสุราในช่วงเทศกาลแต่ก็มีเสียงตอบรับที่ไม่เห็นด้วยออกมาจำนวนมาก เมื่อห้ามไม่ได้จะต้องทำอย่างไรให้เมื่อดื่มแล้วเกิดความรับผิดชอบ สิ่งสำคัญคือสร้างจิตสำนึก สร้างการตระหนักรู้  หรือพูดง่ายๆคนของเรายังขาดวินัย เริ่มตอนนี้คงสำบากโดยเฉพาะในผู้ใหญ่ ต้องเริ่มกันตั้งแต่เด็กๆ พ่อแม่ผู้ปกครอง ต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี” นายประสาร  กล่าว

สำหรับสถิติผู้ที่ถูกคุมประพฤติ แต่ละปีเฉลี่ยมีประมาณ 200,000 คน โดยคดีเมาแล้วขับ สถิติสูงเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ประมาณ 40,000 – 50,000 คนต่อปีส่วนอันดับหนึ่งคือคดียาเสพติด-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง