สำนักงานกกต. 27 ธ.ค.-สมชัยชี้คสช.อ้างออกคำสั่ง 53 /2560 เพราะเหตุสมาชิกพรรคซ้ำซ้อนไม่จริง เตือนการให้สมาชิกพรรคยืนยันตัวตน จ่ายค่าบำรุงภายในหนึ่งเดือนสร้างแรงกระเพื่อมทางการเมือง
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย อ้างสาเหตุที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ต้องออกคำสั่งที่ 53 /2560 ขยายระยะเวลาการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) พรรคการเมืองว่ามีความซ้ำซ้อนของฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองไม่รู้ว่าใครอยู่พรรคใด โดยยืนยันว่าข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองในฐานข้อมูลที่กกต.รับผิดชอบ ไม่มีรายชื่อสมาชิกพรรคการเมืองซ้ำซ้อนแม้แต่รายเดียว ซึ่งระบบฐานข้อมูลที่กกต.ออกแบบมา เพื่อใช้สำหรับตรวจสอบสมาชิกพรรคการเมืองตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2550 เป็นต้นมา การบันทึกข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองต้องใช้เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก หากคีย์ข้อมูลแล้วระบบพบว่าบุคคลดังกล่าวมีชื่อเป็นสมาชิกเกินกว่า 1 พรรค ระบบจะตัดชื่อบุคคลดังกล่าวออกทั้งหมด
“ถ้าคีย์ข้อมูลแล้วพบว่ามีชื่อเป็นสมาชิกพรรคการเมืองหนึ่งอยู่ก่อนแล้ว ระบบจะไม่บันทึกข้อมูลซ้ำ ซึ่งเป็นไปตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 50 มาตรา 24 ที่ห้ามผู้ใดเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองเกินหนึ่งพรรคการเมือง หากเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเกินกว่าหนึ่งพรรค สมาชิกภาพของสมาชิกจะสิ้นสุดลง ดังนั้น กระบวนการทำงานของกกต.จึงรองรับปัญหานี้อยู่แล้ว โดยลบรายชื่อที่ซ้ำซ้อนทั้งในส่วนที่ซ้ำในพรรคเดียวกันและซ้ำข้ามพรรคไปแล้วกว่า 1,250,000 คน อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่อาจมีชื่อและนามสกลุเหมือนกัน แต่เลขประจำตัวประชาชนจะต้องไม่ตรงกัน แต่หากคีย์ข้อมูลใหม่โดยพรรคการเมืองจะไม่สามารถคีย์ข้อมูลบุคคลที่ซ้ำกับข้อมูลที่กกต.มีได้ เพราะมีการออกแบบปิดกั้นระบบฐานข้อมูล ขณะนี้กกต. ได้รับความร่วมมือกับสำนักงานทะเบียนราษฎร กระทรวงมหาดไทยในการช่วยอัพเดทข้อมูลที่อยู่และการเกิด การตายให้เป็นปัจจุบันแล้ว โดยกกต.ได้สำเนาข้อมูลนี้ให้ทุกพรรคการเมืองแล้ว เพื่อนำไปใช้ในการปรับปรุงฐานข้อมูลสมาชิกของพรรคให้เป็นปัจจุบัน” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวถึงกรณีข้อสังเกตว่าเป็นการรีเซ็ตสมาชิกพรรคการเมือง ว่า ต้องถามเจตนาของผู้ออกกฎหมายว่าทำเพื่ออะไร แต่เห็นว่าเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย เพราะพรรคการเมืองสะสมสมาชิกที่ถูกต้องเป็นเวลานาน แต่ต้องมาเริ่มต้นใหม่ แม้จะมีมุมดีในการยืนยันตัวตนและให้ชำระสมาชิกพรรคการเมืองให้ถูกต้องก็ตาม การที่คำสั่ง คสช.กำหนดให้สมาชิกพรรคต้องยืนยันและจ่ายค่าสมาชิกภายในหนึ่งเดือนตั้งแต่วันที่ 1-30 เมษายน 61 เป็นเรื่องที่ต้องทบทวนว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ เนื่องจากศักยภาพของพรรคในการแจ้งสมาชิกให้ดำเนินการภายในกำหนดเวลาดังกล่าวไม่เท่ากัน อาจทำให้เกิดความวุ่นวาย
“แม้จะทำได้ก็เหนื่อย และจะทำให้เกิดการกระเพื่อมทางการเมืองครั้งใหญ่ เนื่องจากพรรคที่มีสมาชิกมากจะต้องทำทุกวิถีทางยืนยันกลับมา เพื่อแสดงว่าพรรคได้รับการสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมาก เขาคงไม่เชื่อผมที่ว่าให้หาสมาชิกแค่ 1 หมื่นคนพอ เพราะการมีสมาชิกมากและจ่ายค่าบำรุงแล้ว จะเชื่อมโยงกับเงินสนับสนุนที่จะได้ถึง 40 % ผมว่าพรรคไม่ยอมเสียหรอก จึงมีคำถามว่าทำไมต้องเร่งทำให้เสร็จภายในหนึ่งเดือน ทั้งที่ พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 กำหนดให้ทยอยจ่ายให้แล้วเสร็จใน 4 ปี หลังจากนั้นถ้าไม่จ่ายถือว่าพ้นจากการเป็นสมาชิก เป็นกระบวนการที่ดีแล้ว อีกทั้งการที่สมาชิกพรรคชำระค่าบำรุงสมาชิกยังสัมพันธ์กับเงินอุดหนุนพรรคการเมืองที่จะได้จากกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองซึ่งกำหนดไว้ในสัดส่วนถึงร้อยละ 40” นายสมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย
