fbpx

สธ.ย้ำความเชื่อดื่มสุราช่วยแก้หนาว ไม่จริง

สธ.20 ธ.ค.-สธ.ย้ำความเชื่อเรื่องการดื่มสุราช่วยแก้หนาวได้ ไม่จริงและอันตราย กำชับสาธารณสุขพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือ-อีสาน ซึ่งอากาศหนาวเย็นกว่าภาคอื่นๆ เฝ้าระวังโรค –ออกให้ความรู้ประชาชน ดูแลสุขภาพตลอดช่วงฤดูหนาว                     


นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ให้สัมภาษณ์ว่า จากประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศว่าในช่วงนี้ ประเทศไทยมีอากาศหนาว อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงและจะลดลงอีก ประชาชนอาจเจ็บป่วยง่ายขึ้นจากโรคที่พบบ่อยเช่น ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม อุจจาระร่วง หัด หัดเยอรมัน อีสุกอีใส โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้มีโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวานและความดันโลหิตสูง มีร่างกายมีภูมิต้านทานน้อย ส่งผลให้เมื่อเจ็บป่วยแล้วมีอาการรุนแรงกว่าปกติ โดยในปี 2560 พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่189,870 ราย เสียชีวิต 54 ราย ผู้ป่วยโรคปอดบวม 251,792 ราย เสียชีวิต 248 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็กเล็ก โดยได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งอากาศหนาวเย็นกว่าภาคอื่นๆ เฝ้าระวังโรคและออกให้ความรู้ประชาชนในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงตลอดช่วงฤดูหนาว                     


สำหรับเรื่องที่น่าเป็นห่วง คือความเชื่อเรื่องการดื่มสุราจะช่วยแก้หนาวได้ ซึ่งไม่เป็นความจริงและเป็นเรื่องที่อันตราย โดยในช่วงแรกหลังดื่มสุราจะรู้สึกร้อนวูบวาบ เกิดจากเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัว  ผลที่ตามมาที่ประชาชนคิดไม่ถึงคือร่างกายจะสูญเสียความร้อนและน้ำออกทางผิวหนังอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำลง หากดื่มเข้าไปมากแอลกอฮอล์จะออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ทำให้เมาหลับไป ไม่ได้ดูแลร่างกายอบอุ่นอย่างเพียงพอ อาจเสียชีวิตจากภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำได้ ซึ่งพบในผู้ที่มีประวัติดื่มสุราเป็นประจำเกือบทุกปี 


นอกจากนี้ไม่ควรผิงไฟ โดยนำเตาถ่านหรือตะเกียงน้ำมันก๊าดเข้าไปจุดให้ความอบอุ่นในเต็นท์ เนื่องจากในควันไฟที่เกิดจากการเผาไหม้จะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ เมื่อผู้ที่อยู่ในเต็นท์หายใจเอาก๊าซ 2 ชนิดนี้เข้าไปจะทำให้เซลล์ของอวัยวะต่างๆ ขาดออกซิเจนไปเลี้ยง โดยเฉพาะสมอง ทำให้เกิดอาการง่วง หลับโดยไม่รู้ตัวและเสียชีวิตได้.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้