ลานเบียร์หนาว!! สรรพสามิตจ้องคุมเข้มช่วงเทศกาล

กรมสรรพสามิต  20 ธ.ค. –  ลานเบียร์หนาว!! กรมสรรพสามิตจ้องคุมเข้มช่วงเทศกาลรับลมหนาวเยือนไทย เดินหน้ามาตรการเชิงรุกปราบปรามสินค้าหนีภาษีระบาด หลังจากดีเดย์ พ.ร.บ.ใหม่ 16 กันยายนที่ผ่านมา


นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า หลังจากกระแสลมหนาวพัดผ่านมาเยือนไทยสร้างบรรยากาศดีหลายภูมิภาคทั้งภาคกลาง เหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้แหล่งท่องเที่ยวตั้งลานเบียร์ สร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวคึกคักมากขึ้น จากโครงสร้างภาษีใหม่กำหนดการขอใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลอกฮอล์รายปี ค่าธรรมเนียม 2,000-3,000 บาทต่อปี จึงสั่งการเจ้าหน้าที่สรรพสามิตลงพื้นที่คุมเข้มการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเขตห้ามหรือไม่ เช่น วัด สถานศึกษา และตรวจดูร้านอาหารขายสุราปลอม สุราหนีภาษีหรือไม่ เพราะในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ยอดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์น่าจะสูงขึ้น 

นายกฤษฎา กล่าวว่า ต้องคุมเข้มดูแลสินค้าหลีกเลี่ยงภาษี รวมถึงการดำเนินงานตามมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามสุราเถื่อน บุหรี่เถื่อน และน้ำมันเถื่อน ตลอดจนจูงใจผู้ที่อยู่นอกระบบภาษีให้เข้ามาสู่ระบบภาษี และเพื่อเป็นมาตรการเสริมทางอ้อมในการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคให้บริโภคสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากการบริโภคสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษีบางประเภทเป็นสินค้าที่มีคุณภาพต่ำ ซึ่งจะเป็นอันตรายและส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าสินค้าทั่วไป 


ทั้งนี้ หลังจากพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ มุ่งเน้นประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีอย่างเป็นระบบ โดยใช้ราคาขายปลีกแนะนำมาเป็นฐานในการคำนวณภาษี จึงจำเป็นต้องกำหนดอัตราภาษีใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับฐานภาษีที่เปลี่ยนแปลงไป จึงอาจเป็นแรงจูงใจทำให้มีปริมาณบุหรี่และสุราหนีภาษีเข้ามาในประเทศมากขึ้น และอาจส่งผลให้ผู้บริโภคหันไปหาสินค้าหนีภาษีมากขึ้น ทำให้รัฐสูญเสียรายได้และเพิ่มความเสี่ยงด้านสุขภาพแก่ประชาชน

หลังจากกำหนดให้ภาคเอกชนกำหนดราคาขายปลีกแนะนำ เพื่อใช้เป็นฐานจัดเก็บภาษี จึงต้องทำการตรวจสอบราคาแนะนำที่เอกชนแจ้งมาเพื่อเสียภาษี หากมีความแตกต่างจากรายอื่นในธุรกิจเดียวกันต้องขอให้ทบทวนราคาปลีกแนะนำเพื่อเสียภาษีใหม่ ยอมรับว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องร่วมกันทั้งรัฐและเอกชน เมื่อวันก่อนจึงรับฟังความเห็นจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)  เพื่อนำข้อร้องเรียนมาปรับปรุงเพิ่มในช่วง 3 เดือนหลังกฎหมายบังคับใช้


อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า จากการตรวจค้นและจับกุมผู้กระทำผิดปีงบประมาณ 2560 และผลการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตทั่วประเทศปีงบประมาณ 2561 (ต.ค. – พ.ย.60) พบว่ามีการกระทำผิด 3,962 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 161 ล้านบาท แยกเป็นคดีสุรา 1,801 คดี น้ำสุราของกลาง  63,816 ลิตร คิดเป็นเงินค่าปรับ 36.34 ล้านบาท คดียาสูบ 1,544 คดี บุหรี่ของกลาง 6,470,620 มวน คิดเป็นเงินค่าปรับ 111.11 ล้านบาท คดีไพ่ 192 คดี ไพ่ของกลาง 9,464 สำรับ คิดเป็นเงินค่าปรับ 1.83 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย