เปิดร่างกฎหมายเอสเอ็มอีปรับโครงสร้างบอร์ดใหม่เสริมแกร่ง

กรุงเทพฯ  18 ธ.ค. – สนช.-สสว.เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นร่างกฎหมายส่งเสริมเอสเอ็มอี ปรับโครงสร้างบอร์ดทั้ง 2 ชุดดึงภาครัฐ-เอกชนด้านเอสเอ็มอีให้ครอบคลุม เพิ่มตำแหน่งผู้ว่าฯ แบงก์ชาติช่วยเสริมข้อมูลการเงิน 


นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. และคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ร่วมจัดงานสัมมนาหัวข้อ “รับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….” เพื่อปรับปรุงกฎหมาย สสว.ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ดียิ่งขึ้น จึงเชิญหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีร่วมแสดงความคิดเห็นร่างกฎหมายดังกล่าว

ปัจจุบันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยมีจำนวน 3 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 99.7 ของจำนวนผู้ประกอบการทั้งประเทศและกลุ่มเอสเอ็มอีมีการจ้างงานเกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจเกือบ 12 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 78.5ของการจ้างงานทั้งประเทศ ประกอบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของเอสเอ็มอี (GDP SME) ขยับเป็นร้อยละ 42.6 ของ GDP ประเทศ คิดเป็นมูลค่า 1.62 ล้านล้านบาท แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของ เอสเอ็มอีต่อภาวะเศรษฐกิจไทย 


นายสุวรรณชัย กล่าวว่า การปรับปรุงกฎหมายมุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอี ถือเป็นกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก โดยผ่านกลไกของภาครัฐ ซึ่งคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (บอร์ดส่งเสริม) และคณะกรรมการบริหารสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (บอร์ดบริหาร) จะมีโครงสร้างใหม่ที่มีหน่วยงานต่าง ๆ เกี่ยวข้องเอสเอ็มอีเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น อาทิ การเพิ่มตำแหน่งผู้ว่าฯ ธปท. มองว่าเป็นองค์กรบทบาทสำคัญพิจารณาข้อมูลภาพรวมของประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการเงิน การคลังของประเทศ จึงช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมมากขึ้น นอกจากนี้ เพิ่มอำนาจให้บอร์ด สสว.เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐจัดทำงบประมาณด้านเอสเอ็มอีบูรณาการร่วมกันให้ไปในทิศทางเดียว เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนเอสเอ็มอีไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน เช่นเดียวกับการเพิ่มหน้าที่ สสว.ให้ประสานงานกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยี เพื่อเสริมความแข็งแกร่งเอสเอ็มอีไทยควบคู่ไปด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย