จ.ชลบุรี 12 พ.ย.- “พล.อ.ประยุทธ์” พบประชาชน ที่ศาลาประชาคมอ่าวอุดม อ.ศรีราชา ย้ำรัฐบาลจะพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกทั้งด้านอุตสาหกรรม การค้า การลงทุน และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
เมื่อเวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในการพบปะกับประชาชนที่ศาลาประชาคมอ่าวอุดม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ว่า การลงพื้นที่วันนี้ เพื่อติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และการสร้างความร่วมมือประชารัฐในพื้นที่ รัฐบาลจะส่งเสริมศักยภาพทางจังหวัดชลบุรีและกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ที่มีอยู่แล้ว ให้สามารถพัฒนาทั้งในด้านอุตสาหกรรมการค้าการลงทุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบราง ท่าเรือ ให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การพัฒนาและการปฏิรูปประเทศเพื่อขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0 ต้องพัฒนากระบวนการผลิต โดยใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของไทย และการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนนั้น จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ทุกกลุ่ม บนพื้นฐานของความเข้าใจในปัญหา และแนวทางการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ โดยต้องพยายามไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้งมาเป็นอุปสรรค นอกจากนี้การพัฒนานั้นไม่สามารถดำเนินการในด้านใดด้านหนึ่งหรือพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เพราะทุกอย่างล้วนเป็นห่วงโซ่ซึ่งกันและกัน ทั้งภาคการเกษตรอุตสาหกรรม ธุรกิจบริการ การท่องเที่ยว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้การดูแลประชาชนทั้งประเทศอย่างเท่าเทียม และรัฐบาลไม่มุ่งหวังผลประโยชน์ พร้อมทั้งกำลังเร่งออกกฎหมายที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้มีความทันสมัยและอำนวยความสะดวกให้การลงทุน ดังนั้นประชาชนก็ต้องมีความเข้มแข็ง และช่วยกันสร้างความเข้าใจ เพราะหากประเทศมีความขัดแย้ง ก็จะไม่มีใครมาลงทุน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้น และขอให้ทุกคนเลือกคนดีเข้ามาบริหารประเทศ และทำตามแผนงานที่วางไว้ ยืนยันไม่เป็นศัตรูกับใคร เป็นนายกรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศ การดำเนินการต่างในเรื่องที่เป็นปัญหาต้องเป็นไปตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การจัดพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ จะดูแลประชาชนในพื้นที่ไม่ให้เดือดร้อน จะไม่ไล่ประชาชนในพื้นที่ และจะทำให้ประชาชนในพื้นที่นั้นๆได้รับประโยชน์แล้วจึงให้ภาคอื่น ๆ เข้ามาลงทุน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดระเบียบพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ที่รัฐจัดหาพื้นที่ค้าขายแห่งใหม่ ปัจจุบันพ่อค้าแม่ค้ามีความพอใจเพราะมีรายได้ที่น่าพอใจ และถือเป็นการจัดระเบียบให้เกิดความเรียบร้อย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ต่อไปนี้หากโรงงานที่เปิดและพบว่ามีปัญหา จะมีการแจ้งเตือน และสั่งปิดทันที หากไม่มีการแก้ไข โดยจะต้องมีหน่วยงานที่ตรวจสอบโรงงานอย่างเข้มงวดนอกจากนี้ รัฐบาลจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จากนั้นรัฐบาลต่อไปก็ต้องดำเนินการต่อตามแผน และขออย่าทำโอกาสให้เป็นวิกฤต เพราะทุกคนมีศักยภาพ ต้องร่วมมือกันเพื่อเดินหน้าประเทศ ซึ่งการปฎิรูปประเทศขึ้นอยู่กับทุกคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายกรัฐมนตรี กล่าวจบ ได้เดินทักทายประชาชน ที่มาให้กำลังใจและมอบดอกไม้ให้ และเดินทางกลับกรุงเทพฯ ทั้งที่ตามกำหนดการ นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) เวลา 13.30 น. เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือ กรอ. กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง แต่ได้มอบหมายให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม แทน .-สำนักข่าวไทย