กทม.10 ธ.ค.-ตำรวจเรียกสอบ 12 เจ้าหน้าที่ดีเอสไอและอีก 2 นัด 12 และ 14 ธันวาคมนี้ หลังพบว่ามีความพยายามที่จะผลักดันสำนวนไปสู่การรื้อฟื้นคดี”ครูจอมทรัพย์”ในชั้นศาล
พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีกับขบวนการรื้อฟื้นคดี”ครูจอมทรัพย์”ว่าคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 90 และจากหนังสือรายงานผลการจับเท็จบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีที่ดีเอสไอรายงานกระทรวงยุติธรรมเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2560 ชี้ให้เห็นว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรื้อคดีโดยมิชอบอย่างแน่นอน เนื่องจากรายงานการจับเท็จระบุว่านายสับ วาปี และนายสุริยา นวนเจริญ ให้การไม่ผ่านเครื่องจับเท็จและรับสารภาพอย่างสอดคล้องกันต่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่ควบคุมเครื่องจับเท็จตั้งแต่ 2-3 กุมภาพันธ์ ว่านายสุริยา และครูจอมทรัพย์ ได้สืบค้นหารถที่มีป้ายทะเบียนใกล้เคียงกับทะเบียนรถครูจอมทรัพย์ จนพบกับนายสับ และได้ว่าจ้างให้นายสับรับผิดแทนด้วยเงิน 500,000 บาท โดยจะมอบเงินให้หลังศาลรับฟ้อง และมีการสร้างพยานหลักฐานเท็จ แต่สุดท้ายนายสับ กลัวว่าจะถูกคุมขังจริง จึงรับสารภาพกับดีเอสไอว่าถูกว่าจ้างมา อย่างไรก็ตาม หลังนายสับ และนายสุริยา รับสารภาพ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ กลับยังมีความพยายามที่จะผลักดันสำนวนไปสู่การรื้อฟื้นคดีในชั้นศาล เข้าข่ายมีส่วนส่งเสริมสนับสนุน ขณะนี้ได้เรียกเจ้าหน้าที่ดีเอสไปเข้าให้ปากคำกับคณะกรรมการแล้ว 12 นาย หลังจากสอบปากคําเจ้าหน้าที่ครบ 14 นายแล้ว จะเร่งสรุปผลว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องและเข้าข่ายกระทำความผิดให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า เพื่อเอาผิดในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและอาจถูกแจ้งข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรด้วยส่วนประชาชนทั่วไปที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะนี้แจ้งข้อหาไปแล้ว 9 คน เหลืออีก 2 คนคือนายธณัช สุขตลอดปี ทนายความ และนางวาสนา เพชรทอง ผู้รับมอบอำนาจ ซึ่งตำรวจออกหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาวันที่ 12 และ 14 ธันวาคมนี้ ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม.-สำนักข่าวไทย