นครศรีธรรมราช 9 ธ.ค.-ภาคใต้สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายตามลำดับหลังฝนทิ้งช่วง อย่างไรก็ตามกลับเกิดปัญหาคลื่นลมแรงแทรกเข้ามาด้วย
สถานการณ์น้ำท่วมทั้ง 22 อำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราชเริ่มคลี่คลายลงแล้ว เนื่องจากฝนหยุดตกในพื้นที่ รวมถึงระดับน้ำในคลองที่ไหลผ่านเทศบาลนครศรีธรรมราชลดลงจนกลับสู่ภาวะปกติทั้ง 5 สาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งออกสำรวจความเสียหาย เพื่อทำการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตามปรากฏว่าเกิดคลื่นลมแรงความสูง 2-3 เมตร ซัดเข้าฝั่งหลายจุด อาทิ ริมหาดแพรกเมือง อำเภอหัวไทร ที่คลื่นซัดเข้าไปถึงบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมฝั่ง ชาวบ้านต้องปิดประตู-หน้าต่าง ป้องกันไม่ให้น้ำทะเลเข้าไปในบ้าน เรือเล็กต้องมาจอดหลบคลื่นริมฝั่ง
ในส่วนของจังหวัดสุราษฏร์ธานี ยังคงมีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่ม 2 ฝั่งแม่น้ำตาปี ในอำเภอพุนพิน และเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ ทหารเรือได้นำเรือผลักดันน้ำ 30 ลำ แบ่งเป็น 2 ชุด ติดตั้งในแม่น้ำตาปี ใต้สะพานจุลจอมเกล้า 20 ลำ และใต้สะพานพุนพิน 10 ลำไว้สำหรับผลักดันน้ำลงทะเล ได้วันละกว่า 3 ล้านลูกบาศ์กเมตร จังหวัดสงขลา น้ำที่ท่วมขังริมทะเลสาบสงขลา แม้ว่าระดับลดลงเรื่อยๆ แต่บางจุดยังมีน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร โดยเฉพาะพื้นที่ติดริมทะเลสาบ ระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร คาดสถานการณ์น้ำท่วมน่าจะยืดเยื้ออีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ และแม้ว่าระดับน้ำจะลดลงแต่หากเปรียบเทียบกับช่วงน้ำท่วมหนักเมื่อปลายปีก่อน ถือว่าสถานการณ์ขณะนี้หนักกว่ามาก และที่ชาวบ้านกังวลมากที่สุดขณะนี้ คือฝนที่ตกลงมาซ้ำจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก.-สำนักข่าวไทย